ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 ก.พ.) ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่รายใหญ่ที่ปรับตัวขึ้นทั้งกระดาน อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ปิดบวกในกรอบจำกัด เนื่องจากมีแรงเทขายจากหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะหุ้นบีพีที่ร่วงลงอย่างหนัก หลังบริษัทเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 4 ที่ต่ำกว่าคาดการณ์
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 14.07 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 7,186.22 จุด
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงกันถ้วนหน้า โดยหุ้นบีพี (บริติช ปิโตรเลียม) ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของอังกฤษ ร่วงลง 4.1% หลังบริษัทเผยรายงานผลประกอบการว่า บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 400 ล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 540 ล้านดอลลาร์ โดยกำไรที่ต่ำกว่าคาดมีสาเหตุจากราคาน้ำมันที่ดิ่งลง ขณะที่บริษัทได้ทำการปรับลดต้นทุน และขายสินทรัพย์ รวมทั้งชะลอแผนการลงทุน
ขณะที่หุ้นรอยัล ดัชท์ เชลล์ คู่แข่งของบีพี ร่วงลง 1.4%
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อวานนี้ ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยหุ้นริโอ ตินโต พุ่งขึ้น 1.5% หลังธนาคารเจพี มอร์แกน ปรับเพิ่มแนวโน้มราคาแร่เหล็ก
หุ้นแองโกล อเมริกัน เพิ่มขึ้น 0.5% หุ้นเกลนคอร์ พุ่ง 2.3% และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ขยับขึ้น 0.2%
หุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเทสโก เพิ่มขึ้น 0.3% หุ้นดับเบิลยูเอ็ม มอร์ริสัน ซูเปอร์มาร์เก็ต พุ่ง 1.8% และหุ้นเจ เซนส์บิวรี พุ่งขึ้น 2.4%