ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (8 ก.พ.) ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่เงียบเหงา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อรอดูผลการลงมติในร่างกฎหมายว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในสภาสามัญชน (House of Commons) ซึ่งจัดขึ้นภายหลังจากที่ตลาดหุ้นปิดทำการ
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนเพิ่มขึ้น 2.60 จุด หรือ 0.04% ปิดที่ 7,188.82 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อวานนี้เป็นไปอย่างเงียบเหงา โดยนักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อจับตาดูการลงมติของสภาสามัญชนในร่างกฎหมาย Brexit ซึ่งจัดขึ้นในเวลาประมาณ 20.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น
ทั้งนี้ สภาสามัญชนของอังกฤษ มีมติด้วยคะแนนเสียง 494 ต่อ 122 เห็นชอบต่อร่างกฎหมาย Brexit โดยไม่มีการแปรญัตติ โดยหลังจากนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งต่อไปยังสภาขุนนาง (House of Lords) เพื่อให้การรับรองต่อไป ซึ่งหากร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านการลงมติจากรัฐสภาแล้ว ก็จะส่งผลให้นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ สามารถประกาศใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนของสหภาพยุโรป เพื่อให้อังกฤษเริ่มต้นกระบวนการเจรจาเป็นเวลา 2 ปี สำหรับการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลง โดยหุ้นริโอ ตินโต ร่วงลง 1.7% แม้บริษัทเผยว่ามีผลกำไรในปี 2559 และประกาศเงินปันผลตลอดปี อยู่ที่ 1.70 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งสูงกว่าระดับคาดการณ์ก็ตาม
หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วง 3.4% หลังมีรายงานว่า คนงานเหมืองของบริษัทไมนีรา เอสคอนดิดาในชิลี ซึ่งมีบริษัทบีเอชพีเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เตรียมจะผละงานประท้วงในวันพฤหัสบดี
หุ้นเกลนคอร์ ลดลง 1.8% และหุ้นแองโกล อเมริกัน ขยับลง 0.3%
หุ้นกลุ่มพลังงานที่น่าจับตา หุ้นรอยัล ดัชท์ เชลล์ ร่วง 1.8% และหุ้นบีพี ขยับลง 0.3% แม้ว่าราคาน้ำมันจะดีดตัวขึ้นเมื่อวานนี้
หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ หุ้นแกล็กโซสมิธไคลน์ ปิดทรงตัว หลังบริษัทเผยกำไรสุทธิหดตัวลง สืบเนื่องจากการปรับโครงสร้างต้นทุนอันเป็นผลจากข้อตกลงแลกเปลี่ยนสินทรัพย์มูลค่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ที่ทำกับบริษัทโนวาร์ตีส