ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 118.06 จุด รับ"ทรัมป์"เล็งปรับภาษีภาคธุรกิจ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 10, 2017 06:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ NASDAQ ปิดที่ระดับสูงสุดเช่นกัน ขานรับข่าวที่ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมประกาศแผนการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้น หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฟื้นตัวขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,172.40 จุด พุ่งขึ้น 118.06 จุด หรือ +0.59% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,715.18 จุด เพิ่มขึ้น 32.73 จุด หรือ +0.58% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,307.87 จุด เพิ่มขึ้น 13.20 จุด หรือ +0.58%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคักเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีต่างก็ทะยานขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากมีรายงานว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เปิดเผยในระหว่างการประชุมกับผู้บริหารของสายการบินที่ทำเนียบขาวว่า เขาจะประกาศแผนการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า

"การปรับลดภาระภาษีโดยรวมสำหรับภาคธุรกิจของสหรัฐถือเป็นเรื่องใหญ่ และเราจะทำการประกาศภายใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งจะถือเป็นปรากฎการณ์สำหรับการปรับลดภาษี" ปธน.ทรัมป์กล่าว

นอกจากนี้ ในการประชุมเมื่อวานนี้ ปธน.ทรัมป์ยังระบุถึงการลดกฎระเบียบในภาคธุรกิจของสหรัฐ รวมทั้งหารือเกี่ยวกับการปฏิรูประบบควบคุมการจราจรทางอากาศ และการปรับปรุงสนามบินที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

ขณะเดียวกันนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 43 ปีในสัปดาห์ที่แล้ว โดยลดลง 12,000 ราย สู่ระดับ 234,000 ราย ใกล้ระดับ 233,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 43 ปีที่ทำไว้ในเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว

ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งประจำเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 1.0% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 2 ปี

นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับการแสดงความเห็นของนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ ซึ่งระบุว่า อัตราดอกเบี้ยสหรัฐมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ในระดับต่ำตลอดทั้งปีนี้ ขณะที่ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ชัดเจนว่า นโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์จะกระตุ้นให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้น หรือทำให้เศรษฐกิจขยายตัวมากขึ้น

หุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฟื้นตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 2.2% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับตัวขึ้น 1.8% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค เพิ่มขึ้น 1.6% และหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ดีดตัวขึ้น 1.4%

หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดนิวยอร์ก นำโดยหุ้นไพโอเนียร์ เนเชอรัล รีซอสเซส ปิดพุ่งขึ้น 5.5%

หุ้นเวียคอมพุ่งขึ้น 4.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้ที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

อย่างไรก็ตาม หุ้นทวิตเตอร์ร่วงลง 12.34% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขกำไร 16 เซนต์/หุ้น และตัวเลขรายได้ 717 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 7/2559 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าบริษัทจะมีกำไร 12 เซนต์/หุ้น และมีรายได้ 740.1 ล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ ทวิตเตอร์ยังได้ปรับลดคาดการณ์กำไรในไตรมาส 1 สู่ระดับ 75-95 ล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 191.3 ล้านดอลลาร์

หุ้นโคคา โคลา ปรับตัวลง 1.8% หลังจากบริษัทปิดเผยตัวเลขกำไรก่อนหักรายการพิเศษ และค่าเสื่อมของสินทรัพย์ ที่ระดับ 37 เซนต์/หุ้น และรายได้ 9.41 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าบริษัทจะมีกำไร 36 เซนต์/หุ้น และมีรายได้ 9.10 พันล้านดอลลาร์

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ราคานำเข้าและส่งออกเดือนม.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ