ตลาดหุ้นยุโรปปิดเกือบทรงตัวเมื่อคืนนี้ (14 ก.พ.) หลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจยูโรโซนในไตรมาส 4/2559 มีการขยายตัวที่ต่ำกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้น ขณะที่เศรษฐกิจของเยอรมนีขยายตัวต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในไตรมาสดังกล่าวเช่นกัน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.07 จุด ปิดที่ 370.20 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,771.81 จุด ลดลง 2.62 จุด หรือ -0.02% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,268.56 จุด ลดลง 10.36 จุด หรือ -0.14% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,895.82 จุด เพิ่มขึ้น 7.63 จุด หรือ +0.16%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันหลังจากยูโรสแตทเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนมีการขยายตัวในไตรมาส 4 ต่ำกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้น โดยได้รับผลกระทบจากการทรุดตัวของผลผลิตในภาคอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ เศรษฐกิจยูโรโซนมีการขยายตัว 0.4% ในไตรมาส 4 เมื่อเทียบรายไตรมาส โดยต่ำกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ระดับ 0.5%
ด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีเปิดเผยว่า เศรษฐกิจเยอรมนีขยายตัวเพียง 0.4% ในไตรมาส 4/2559 ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ส่วนเศรษฐกิจตลอดปี 2559 ขยายตัวเพียง 1.9% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 5 ปี
หุ้นโรลส์-รอยซ์ ร่วงลง 4% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุน 4.03 พันล้านปอนด์ หรือ 5.05 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2559
อย่างไรก็ตาม หุ้นบริษัทรายใหญ่ของยุโรปปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเครดิตสวิส พุ่งขึ้น 2.3% หลังจากนายเดวิด แมเธอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของเครดิตสวิส ธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของสวิตเซอร์แลนด์ กล่าวว่า ธนาคารมีแผนที่จะปลดพนักงาน 5,500-6,500 คนในปีนี้ ซึ่งจะรวมถึงพนักงานประจำ, พนักงานที่ว่าจ้างตามสัญญา และที่ปรึกษา
หุ้นเปอร์โยต์ ทะยานขึ้น 4.3% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทเปอร์โยต์ ผู้ผลิตรถยนต์ของฝรั่งเศส กำลังเจรจากับบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ส (GM) เพื่อซื้อแบรนด์รถยนต์โอเปิล