ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (22 ก.พ.) ด้วยแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางอังกฤษมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจของอังกฤษ และเชื่อว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจยังอยู่ในทิศทางที่สดใส นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารบางแห่งและบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 27.42 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 7,302.25 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อวานนี้ ได้รับปัจจัยบวกจากการที่นายมิโนเช ชาฟิค รองผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoA) เผยว่า เศรษฐกิจอังกฤษยังคงมีแนวโน้มเติบโต 2% ในปีนี้ ถึงแม้ว่าสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) ได้ปรับลดประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2559 ก็ตาม
หุ้นกลุ่มธนาคารรายใหญ่ปรับตัวขึ้น นำโดยหุ้นลอยด์ แบงกิ้ง ซึ่งพุ่งขึ้น 4.3% หลังธนาคารเผยผลกำไรก่อนหักภาษีพุ่งขึ้นกว่า 2 เท่า สู่ระดับ 4.2 พันล้านปอนด์ (5.2 พันล้านดอลลาร์) และมีกำไรต่อหุ้นที่ระดับ 2.9 เพนซ์ในปีที่แล้ว นอกจากนี้ ลอยด์ยังคาดการณ์ด้วยว่า กำไรสุทธิจากอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 2.7% ในปีนี้
หุ้นเอชเอสบีซี พุ่งขึ้น 2.1% หลังร่วงลง 6.5% เมื่อวันอังคาร หลังธนาคารได้รายงานตัวเลขขาดทุนในไตรมาส 4 ที่ระดับ 4.23 พันล้านดอลลาร์
หุ้นกลุ่มธนาคารรายอื่นๆอ่อนตัวลงในช่วงการซื้อขายภาคบ่าย โดยนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายเพื่อจับตาดูรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดจะเผยแพร่ภายหลังจากที่ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการ โดยนักลงทุนรอดูว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนในการปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ ซึ่งจะส่งผลต่อต้นทุนการกู้ยืมในสหรัฐ
หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ ขยับลง 0.1% หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ขยับขึ้น 0.3% และหุ้นบาร์เคลย์ส ลดลง 0.3% โดยนักลงทุนรอดูผลประกอบการบาร์เคลย์สซึ่งจะเปิดเผยในวันนี้
หุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวขึ้น โดยหุ้นยูนิลีเวอร์ ทะยานขึ้น 5.71% หลังบริษัทเผยว่า กำลังจัดทำรายงานการประเมินฉบับใหม่ซึ่งมีความครอบคลุมเพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้น หลังก่อนหน้านี้ยูนิลีเวอร์ได้ปฏิเสธข้อเสนอขอซื้อกิจการจากคราฟท์ ไฮนซ์ มูลค่า 1.43 แสนล้านดอลลาร์