ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ จะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระหว่างการแถลงต่อสภาคองเกรสในช่วงเช้าวันนี้เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย โดยหุ้นกลุ่มผู้ผลิตยุทธปัจจัยด้านกลาโหมทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง จากการคาดการณ์ที่ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐจะเพิ่งงบประมาณรายจ่ายด้านกลาโหม
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.2% ปิดที่ 370.24 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,858.58 จุด เพิ่มขึ้น 13.40 จุด หร่อ +0.28% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,834.41 จุด เพิ่มขึ้น 11.74 จุด หรือ +0.10% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,263.44 จุด เพิ่มขึ้น 10.44 จุด หรือ +0.14%
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้น ขานรับความหวังที่ว่า ปธน.ทรัมป์จะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระหว่างการแถลงต่อสภาคองเกรสในครั้งนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า ปธน.ทรัมป์จะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการปรับลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคลในการแถลงต่อสภาคองเกรส
นอกจากนี้ คาดว่าปธน.ทรัมป์จะมีการเปิดเผยนโยบายจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าข้ามชายแดน, การปฏิรูปกฎหมายประกันสุขภาพที่เรียกว่า "โอบามาแคร์", การยกเลิกกฎระเบียบในภาคอุตสาหกรรม และการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการสาธารณูปโภค รวมทั้งการใช้จ่ายงบประมาณด้านกลาโหมครั้งใหญ่ในการแถลงต่อสภาคองเกรสในครั้งนี้เช่นกัน
หุ้นกลุ่มผู้ผลิตยุทธปัจจัยด้านกลาโหมปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับมาตรการเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมของปธน.ทรัมป์ โดยหุ้นบีเออี ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 1.9% หุ้นเม็กกิตส์ พีแอลซี ทะยานขึ้น 13% หุ้นเธลส์ เอสเอ พุ่งขึ้น 3.7% และหุ้นแอร์บัส กรุ๊ป ดีดตัวขึ้น 1.4%
นอกจากนี้ ตลาดยังไดัแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจของฝรั่งเศส โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติฝรั่งเศส (Insee) ระบุว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนม.ค.ฟื้นตัวขึ้น 0.6% ขณะที่จีดีพีปี 2559 ขยายตัว 1.1% โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายภายในประเทศที่พุ่งขึ้น 1.8% ขณะที่การลงทุนเพิ่มขึ้น 2.7% และการผลิตในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 1.4%