ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (28 ก.พ.) ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มยุทธภัณฑ์ ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะกล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรสสหรัฐในช่วงเช้าวันนี้เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 10.44 จุด หรือ 0.14% ปิดที่ 7,263.44 จุด
นักลงทุนคาดหวังว่า ปธน.ทรัมป์จะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการปรับลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคลในการแถลงต่อสภาคองเกรส รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าข้ามชายแดน, การปฏิรูปกฎหมายประกันสุขภาพที่เรียกว่า "โอบามาแคร์", การยกเลิกกฎระเบียบในภาคอุตสาหกรรม และการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการสาธารณูปโภค ตลอดจนการใช้จ่ายงบประมาณด้านกลาโหมครั้งใหญ่
นักวิเคราะห์จากแอคเซนโด มาร์เก็ตส์ ระบุว่า "นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับการกล่าวสุนทรพจน์ของปธน.ทรัมป์ แต่ในขณะเดียวกันก็มีความระมัดระวังมากขึ้น โดยต้องการดูรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของทรัมป์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยชี้นำตลาดต่อไป"
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มผู้ผลิตยุทโธปกรณ์ที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง จากความคาดหวังเกี่ยวกับมาตรการเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมของปธน.ทรัมป์ โดยหุ้นบีเออี ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 1.9% หุ้นเม็กกิตส์ ทะยานขึ้น 13% หุ้นโรลส์-รอยซ์ พุ่ง 2.5% และหุ้นคอบแฮม เพิ่มขึ้น 1.5%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่น่าจับตา หุ้นแองโกล อเมริกัน ขยับขึ้น 0.2% หลังบริษัทเดอ เบียร์ส ซึ่งเป็นบริษัทค้าเพชรของแองโกล อเมริกัน รายงานยอดขายเพชรตกฮวบ 25% แต่ยังอยู่ในระดับที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่หุ้นเฟรสนิลโล ปิดทรงตัว หลังบริษัทเผยผลกำไรปี 2016 ปรับตัวเพิ่มขึ้น และประกาศเพิ่มเงินปันผล