ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 303.31 จุด ขานรับนโยบาย "ทรัมป์"

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 2, 2017 06:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (1 มี.ค.) โดยดาวโจนส์ทำสถิติทะลุแนวต้านที่ระดับ 21,000 จุด ขณะที่ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐประกาศแผนทุ่มงบประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในการลงทุนโครงการสาธารณูปโภค ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรสเมื่อช่วงเช้าวานนี้ตามเวลาไทย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,115.55 จุด พุ่งขึ้น 303.31 จุด หรือ +1.46% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,904.03 จุด เพิ่มขึ้น 78.59 จุด หรือ +1.35% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,395.96 จุด เพิ่มขึ้น 32.32 จุด หรือ +1.37%

ภาวะการซื้อขายในวันแรกของเดือนมี.ค.เป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากปธน.ทรัมป์ได้ประกาศแผนการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ อีกทั้งได้ประกาศแผนการปฏิรูประบบประกันสุขภาพ การปฏิรูประบบตรวจคนเข้าเมือง และแผนปรับลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับชนชั้นกลาง และลดภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับภาคธุรกิจ

นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า การที่ปธน.ทรัมป์ไม่ได้ส่งสัญญาณถึงการใช้นโยบายกีดกันการค้าในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้ ยังช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า และเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดพุ่งขึ้นด้วย

หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นขานรับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนนี้ เนื่องจากจะช่วยเพิ่มกำไรจากอัตราดอกเบี้ยของภาคธนาคาร นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารยังปรับตัวขึ้นจากการคาดการณ์เกี่ยวกับการผ่อนคลายกฎระเบียบ โดยเฉพาะการแก้ไขกฏหมายดอดด์-แฟรงค์ ซึ่งเป็นกฏหมายที่รัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา เคยใช้กู้วิกฤตการณ์ทางการเงินที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2007-2009 ซึ่งมีความเข้มงวดในการทำธุรกรรมทางการเงินในด้านต่างๆ เช่น การปล่อยสินเชื่อ

ทั้งนี้ หุ้นเจพีมอร์แกน เชส พุ่งขึ้น 3.3% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ เพิ่มขึ้น 1.9% หุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส พุ่งขึ้นกว่า 2%

ส่วนหุ้นอื่นๆที่ได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของปธน.ทรัมป์นั้น หุ้นโบอิ้งพุ่งขึ้น 2% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ปรับตัวขึ้นกว่า 2% หุ้นทราเวลเลอร์ส ทะยานขึ้น 2.2%

หุ้นแมคโดนัลด์ ปรับตัวขึ้น 1.1% หลังจากบริษัทประกาศแผนกระตุ้นยอดขายทั่วโลก ในระหว่างการประชุมร่วมกับนักลงทุนที่กรุงชิคาโกเมื่อวานนี้

หุ้น Lowe's ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ทะยานขึ้น 9.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท

หุ้นไมแลน ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ของสหัฐ พุ่งขึ้น 7.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด โดยก่อนหน้านี้หุ้นไมแลนได้รับแรงกดดันอย่างหนัก จากรายงานที่ว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐเตรียมยื่นดำเนินคดีกับบริษัทยาบางแห่ง ในข้อหากำหนดราคาสูงเกินไป

นักลงทุนจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ที่ Executives' Club of Chicago ในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ทั้งนี้ CME Group FedWatch ระบุว่า ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐบ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 69% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้

สำหรับปัจจัยล่าสุดที่สนับสนุนกระแสคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดนั้น มาจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่เปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2013

ขณะที่ดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญนั้น เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2012

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.พ.โดยมาร์กิต และดัชนีภาคการผลิตเดือนก.พ.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ