ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 112.58 จุด จากกระแสคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 3, 2017 06:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (2 มี.ค.) หลังจากมีกระแสคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ ภายหลังเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนได้ออกมาส่งสัญญาณดังกล่าว ขณะที่นักลงทุนจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ที่ Executives' Club of Chicago ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,002.97 จุด ร่วงลง 112.58 จุด หรือ -0.53% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,861.22 จุด ลดลง 42.81 จุด หรือ -0.73% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,381.92 จุด ลดลง 14.04 จุด หรือ -0.59%

ควินซี ครอสบี นักวิเคราะห์จากพรูเดนเชียล ไฟแนนเชียลกล่าวว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงเนื่องจากนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจว่า เศรษฐกิจสหรัฐในขณะนี้มีความแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้หรือไม่ แม้เจ้าหน้าที่หลายคนของเฟดได้ออกมาแสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจและสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ก็ตาม นอกจากนี้ การที่ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดติดต่อกันหลายวัน ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเทขายทำกำไร

นักลงทุนจับตานางเจเน็ต เยลเลน ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ที่ Executives' Club of Chicago ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า นางเยลเลนอาจจะส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่เฟดคนอื่นๆที่ออกมาส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด แม้ว่าก่อนหน้านี้นางเบรนาร์ดมักจะสนับสนุนให้เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำก็ตาม

ผลสำรวจล่าสุดของ CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนเชื่อว่ามีโอกาสสูงถึง 78% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค. และมีโอกาส 70% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนพ.ค.

หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ร่วงลง 4.3% ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยลบที่ฉุดตลาดร่วงลงด้วย หลังจากมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐได้เข้าตรวจค้นสำนักงาน 3 แห่งของแคทเธอร์พิลลาร์ในรัฐอิลลินอยส์

หุ้นโครเกอร์ ดิ่งลง 4.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด

หุ้นเชค แชค ซึ่งเป็นผู้บริหารเครือข่ายร้านเบอร์เกอร์ ร่วงลง 2.6% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2560 และเปิดเผยผลประกอบการที่น้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์

หุ้นบาร์นส์ แอนด์ โนเบิล ผู้ผลิตและจำหน่ายหนังสือรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 8.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด

อย่างไรก็ตาม หุ้นเบสท์ บาย พุ่งขึ้น 6.4% หลังจากมีรายงานว่า บริษัท hhgregg ซึ่งเป็นคู่แข่งของเบสท์ บาย ประกาศแผนปิดสาขา 88 แห่ง

ส่วนหุ้นอเบอร์ครอมบี้ แอนด์ ฟิทช์ ทะยานขึ้น 14% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง

นอกเหนือจากการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเยลเลนแล้ว นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.พ.โดยมาร์กิต และดัชนีภาคการผลิตเดือนก.พ.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ