ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากตลาดทะยานขึ้นเมื่อวันพุธ อันเนื่องมาจากมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดลบ 0.02% แตะที่ 375.61 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 12,059.57 จุด ลดลง 7.62 จุด, -0.06% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,382.35 จุด ลดลง 0.55 จุด, -0.01% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,963.80 จุด เพิ่มขึ้น 2.97 จุด, +0.06%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา ขณะที่นักลงทุนเทขายหุ้นบางกลุ่ม โดยหุ้น Anheuser-Busch InBev ร่วงลง 2.5% หลังจากบริษัทได้ปรับเพิ่มเป้าหมายการลดต้นทุนในการควบรวมกิจการกับ SABMiller
หุ้นทราวิส เพอร์กินส์ ผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้างของอังกฤษ ดิ่งลง 6.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรก่อนหักภาษีทรุดฮวบลง 67% ในปี 2560 อันเนื่องมาจากต้นทุนการปรับโครงสร้างธุรกิจ
หุ้นโรช โฮลดิ้ง ผู้ผลิตยารายใหญ่ของสวิส พุ่งขึ้น 6.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลการทดสอบยารักษาโรคมะเร็งเต้านมที่ออกมาเป็นที่น่าพอใจ
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซนที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า เงินเฟ้อในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรปรับตัวขึ้นแตะ 2% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่ตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งกำหนดให้เงินเฟ้ออยู่ที่ใกล้ระดับ 2%
นอกจากนี้ ยูโรสแตทเปิดเผยว่า อัตราว่างงานเดือนม.ค.อยู่ที่ระดับ 9.6% ซึ่งทรงตัวจากระดับของเดือนธ.ค. และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2552