ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า เฟดพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ หากเศรษฐกิจมีการขยายตัวที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของเจ้าหน้าที่เฟด โดยความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของนางเยลเลนเป็นไปในทิศทางเดียวกับที่เจ้าหน้าที่หลายคนของเฟดได้ออกมาส่งสัญญาณก่อนหน้านี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,005.71 จุด เพิ่มขึ้น 2.74 จุด หรือ +0.01% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,870.75 จุด เพิ่มขึ้น 9.53 จุด หรือ +0.16% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,383.12 จุด เพิ่มขึ้น 1.20 จุด หรือ +0.05%
ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับขึ้นทั้งสิ้น 0.9% ดัชนี S&P500 ปรับขึ้น 0.7% และดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 0.4%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากนางเยลเลนได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่ Executives Club of Chicago เมื่อวานนี้ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ ถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม หากเศรษฐกิจมีการขยายตัวที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของเจ้าหน้าที่เฟด
"ในการประชุมครั้งต่อไปของเฟดซึ่งจะมีขึ้นในเดือนนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะประเมินว่า ตัวเลขการจ้างงานและเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของเราหรือไม่ ซึ่งหากตัวเลขดังกล่าวเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (federal funds rate) ก็เป็นเรื่องที่เหมาะสม" นางเยลเลนกล่าว
ทั้งนี้ นางเยลเลนได้แสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ โดยระบุว่า "อัตราว่างงานในเดือนม.ค.อยู่ที่ระดับ 4.8% ซึ่งสอดคล้องกับระดับการประเมินของเฟด ส่วนเศรษฐกิจก็ดูเหมือนว่าจะสามารถรับมือกับความเสี่ยงที่เกิดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศได้ และเงินเฟ้อในเดือนม.ค.ก็ส่งสัญญาณเคลื่อนตัวเข้าใกล้เป้าหมายที่ระดับเกือบ 2% ของเฟด"
นักวิเคราะห์จากรัสเซลล์ อินเวสต์เมนท์กล่าวว่า ในด้านหนึ่งนั้น นักลงทุนมองว่าถ้อยแถลงของนางเยลเลนถือเป็นการส่งสัญญาณที่ "ชัดเจน" ว่า เฟดพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากมุมมองด้านบวกที่นางเยลเลนมีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ และในอีกด้านหนึ่งนั้น นักลงทุนบางส่วนก็ได้ซึมซับกระแสคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเอาไว้แล้ว หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนได้ออกส่งสัญญาณในทิศทางเดียวกันว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
นอกจากนี้ รายงานที่บ่งชี้ถึงการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาคบริการในสหรัฐ นับเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวก โดยสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) พบว่า ดัชนีภาคบริการของ ISM มีการขยายตัวที่ระดับ 57.6 ในเดือนก.พ. เพิ่มขึ้นจากระดับ 56.5 ในเดือนม.ค. โดยภาคบริการของสหรัฐมีการขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 86 ในเดือนก.พ. เนื่องจากดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะขยายตัว
หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ผู้ผลิตเครื่องมือสำหรับอุตสาหกรรมหนัก ดีดตัวขึ้น 0.8% โดยราคาหุ้นฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักในวันพฤหัสบดี จากข่าวที่ว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางสหรัฐได้บุกตรวจค้นสำนักงาน 3 แห่งของแคทเธอร์พิลลาร์ ในรัฐอิลลินอยส์ โดยคาดว่าการบุกค้นครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการหาข้อมูลของบริษัท CSARL ซึ่งเป็นบริษัทลูกของแคทเธอร์พิลลาร์ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์
หุ้น Snap ผู้ให้บริการ Snapchat ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นส่งข้อความ ทะยานขึ้น 44% หลังจากบริษัทเปิดตัวการซื้อขายอย่างคึกคักเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งส่งผลให้มูลค่าทางตลาดของ Snap สูงถึง 2.84 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่ามูลค่าตลาดของทวิตเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่ง