ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (7 มี.ค.) จากความวิตกว่าเศรษฐกิจของอังกฤษอาจเผชิญกับภาวะชะลอตัว หลังอังกฤษเผยยอดค้าปลีกที่ปรับตัวลดลง นอกจากนี้ตลาดยังวิตกกังวลเกี่ยวกับการลงมติในสภาขุนนาง (House of Lords) ของอังกฤษ ที่มีต่อร่างกฎหมายว่าด้วยการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ซึ่งมีขึ้นหลังตลาดปิดทำการ
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 11.13 จุด หรือ -0.15% ปิดที่ 7,338.99 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อวานนี้ได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจของอังกฤษที่ย่ำแย่หลายรายการโดยสมาคมผู้ค้าปลีกอังกฤษ (BRC) เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.พ.ปรับตัวลง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าชาวอังกฤษเริ่มหันมาควบคุมการใช้จ่าย ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่ขยายตัวเร็วขึ้น
สมาคมระบุว่า ยอดขายแบบ like-for-like หรือ การกำหนดเป้าการขายแบบขั้นต่ำของแต่ละร้าน ลดลง 0.4% ในช่วงวันที่ 29 ม.ค. ถึง 25 ก.พ. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ขณะที่ยอดค้าปลีกโดยรวมเพิ่มขึ้นเพียง 0.4% ซึ่งชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับเดือนก.พ.ปีที่แล้วซึ่งมีการขยายตัวแข็งแกร่ง 1.1% นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกโดยรวมยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 3 เดือนที่ 0.8% และค่าเฉลี่ยในรอบ 12 เดือนที่ 0.9%
ส่วนราคาบ้านในสหราชอาณาจักรในเดือนก.พ.มีการปรับตัวขึ้น 0.1% จากเดือนม.ค. ต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะขยายตัวที่ระดับ 0.2%
นายโทนี ครอสส์ นักวิเคราะห์ตลาดแห่ง TopTradr กล่าวว่า "นักลงทุนมีความวิตกว่า สภาขุนนางอังกฤษอาจลงมติเห็นชอบในร่างกฎหมาย Brexit ที่มีการแปรญัตติ ซึ่งอาจทำให้อังกฤษสูญเสียอำนาจต่อรองในการเจรจากระบวนการ Brexit นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังมีปัจจัยลบจากข้อมูลราคาบ้านที่ขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์"
ทั้งนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่า สภาขุนนางจะพยายามผลักดันการผ่านร่างกฎหมาย Brexit ที่มีการแปรญัตติ โดยมีเนื้อหาที่จะบังคับรัฐบาลของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ให้สมาชิกรัฐสภามีสิทธิมีเสียงมากขึ้นเกี่ยวกับการกำหนดเงื่อนไขของการที่อังกฤษทำการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป
หุ้นที่ปรับตัวลงนำโดยหุ้นแอชเทด กรุ๊ป ร่วงลง 2% แม้บริษัทผู้ให้บริการเช่าอุปกรณ์ดังกล่าวเผยว่า ผลประกอบการในปีการเงิน 2017 ยังอยู่ในทิศทางที่สามารถบริหารจัดการได้
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นนำโดยหุ้นอินเตอร์เท็ค กรุ๊ป พุ่งขึ้น 4.8% หลังบริษัทเผยว่า บริษัทมีผลกำไรก่อนหักภาษีในปี 2016 จากอานิสงส์การที่เงินปอนด์อ่อนค่าลง