ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 21.50 จุด นักลงทุนชะลอเทรดก่อนรู้ผลประชุมเฟด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 14, 2017 06:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยมีกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,881.48 จุด ลดลง 21.50 จุด หรือ -0.10% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,875.78 จุด เพิ่มขึ้น 14.05 จุด หรือ +0.24% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,373.47 จุด เพิ่มขึ้น 0.87 จุด หรือ +0.04%

บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมเฟดในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาแถลงการณ์หลังการประชุมเฟด ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดต่อไปในปีนี้ด้วย

CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 93% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14-15 มี.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 91% ก่อนการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่แข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์

หุ้นอินเทล ร่วงลง 2.1% หลังจากอินเทล ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิพยักษ์ใหญ่ของโลก ประกาศซื้อกิจการบริษัทโมบิลอาย ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของอิสราเอล ด้วยวงเงิน 1.53 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นวงเงินสูงเป็นประวัติการณ์สำหรับการเทคโอเวอร์อุตสาหกรรมไฮเทคของอิสราเอล

ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นโมบายอาย ปิดตลาดทะยานขึ้น 28.2%

สำหรับโมบิลอาย เป็นบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยบริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 1999 ด้วยวัตถุประสงค์ในการลดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการขับขี่รถยนต์ นอกจากนี้ โมบิลอายได้จดทะเบียนที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กในปี 2014 โดยมีมูลค่าตลาด 1.06 หมื่นล้านดอลลาร์

หุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ ดีดตัวขึ้น 1.4% หลังจากเอชเอสบีซีประกาศแต่งตั้งนาย มาร์ค ทัคเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเอไอเอ กรุ๊ป ขึ้นนั่งตำแหน่งประธานคนใหม่ แทนที่นายดักลาส ฟลินท์ ประธานคนปัจจุบันที่กำลังจะหมดวาระในเดือนก.ย.นี้

หุ้นเจซี เพนนี บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 5.8% แม้บริษัทประกาศเปิดตัว "Penney Homes Services" เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดที่อยู่อาศัย

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนมี.ค.จากเฟดนิวยอร์ก, ยอดค้าปลีกเดือนก.พ., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเดือนม.ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมี.ค. จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.พ., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. และ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ