ดาวโจนส์ปรับตัวแคบ ก่อนสภาสหรัฐชี้ชะตาร่างกฎหมาย"อเมริกันเฮลธ์แคร์"

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวในช่วงแคบในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในการลงมติต่อร่างกฎหมาย "อเมริกันเฮลธ์แคร์" แทน "โอบามาแคร์" ในวันนี้

ณ เวลา 20.46 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 20,651.04 จุด ลดลง 10.26 จุด หรือ 0.05%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ร่วงลงมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก

นักลงทุนกังวลว่าความขัดแย้งในสภาคองเกรสเกี่ยวกับการผ่านร่างกฎหมาย "อเมริกันเฮลธ์แคร์" จะส่งผลกระทบทำให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ เช่น การปฏิรูปภาษี, การผ่อนคลายกฎระเบียบ และการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการสาธารณูปโภค ต้องล่าช้าออกไป

ก่อนหน้านี้ ตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้น นับตั้งแต่นายทรัมป์ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ จากความคาดหวังที่ว่าเขาจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ แต่ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมแต่อย่างใด

นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมวันนี้ ซึ่งจัดขึ้นโดยเฟดสาขาชิคาโก ภายใต้หัวข้อ "Strong Foundations: The Economic Futures of Kids and Communities"

อย่างไรก็ดี นางเยลเลนไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ หรือส่งสัญญาณเกี่ยวกับนโยบายการเงินในการกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้แต่อย่างใด

ส่วนการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ ได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 0.75-1.00% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งแรกในปีนี้ และเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน และครั้งที่ 3 ในรอบ 10 ปี

กรรมการเฟดคาดการณ์ว่า จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ และปรับขึ้น 3 ครั้งในปีหน้า

ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งของเฟดในปีนี้ จะเกิดขึ้นในเดือนมิ.ย. และธ.ค.

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 15,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 258,000 ราย ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 240,000 ราย