ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ ภายหลังจากที่ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น ส่วนเงินเยนอ่อนค่าลง แม้ว่านักลงทุนจะผิดหวังกับการยกเลิกการลงคะแนนเสียงร่างกฎหมายอเมริกันเฮลธ์แคร์ก็ตาม
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 29,301.22 จุด เพิ่มขึ้น 64.07 จุด, +0.22% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 24,317.93 จุด เพิ่มขึ้น 124.23 จุด, +0.51% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,749.64 จุด เพิ่มขึ้น 4.69 จุด +0.27%
ข้อมูลเศรษฐกิจฝั่งเอเชียที่ได้มีการเผยแพร่ในวันนี้ ได้แก่ กระทรวงการคลังของจีนเปิดเผยว่า ผลกำไรของรัฐวิสาหกิจ (SOE) ขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
ผลกำไรโดยรวมของรัฐวิสาหกิจในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. อยู่ที่ 3.0186 แสนล้านหยวน (4.375 หมื่นล้านดอลลาร์) พุ่งขึ้น 40.3% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
กำไรของรัฐวิสาหกิจที่บริหารงานโดยรัฐบาลกลางจีน ปรับตัวขึ้น 23.7% ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ขณะที่กำไรของรัฐวิสาหกิจที่บริหารงานโดยรัฐบาลท้องถิ่น พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 164.2% ในช่วงเวลาดังกล่าว
ขณะที่วานนี้ นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวมกัน 4 ครั้งในปีนี้ หากเศรษฐกิจยังคงปรากฏให้เห็นความแข็งแกร่ง ขณะที่เงินเฟ้อขยายตัวตามเป้า
อย่างไรก็ดี นายอีแวนส์ระบุว่า หากเศรษฐกิจส่งสัญญาณไม่แน่นอน ก็อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยแค่ 2 ครั้งในปีนี้ ขณะที่กระแสคาดการณ์ส่วนใหญ่มองว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งนายอีแวนส์ก็มองว่ามีโอกาส แต่ต้องขอประเมินแนวโน้มให้มั่นใจก่อน
ทั้งนี้ ตลาดการเงินจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม "The National Community Reinvestment Coalition Annual Conference" ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปในปีนี้