ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 69.17 จุด รับจีดีพีโตเกินคาด,ราคาน้ำมันพุ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 31, 2017 06:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) ขานรับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2559 ที่ขยายตัวได้ดีกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,728.49 จุด เพิ่มขึ้น 69.17 จุด หรือ +0.33% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,368.06 จุด เพิ่มขึ้น 6.93 จุด หรือ +0.29% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,914.34 จุด เพิ่มขึ้น 16.80 จุด หรือ +0.28%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายสำหรับจีดีพีประจำไตรมาส 4/2559 โดยระบุว่า จีดีพีมีการขยายตัว 2.1% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ที่ขยายตัวเพียง 1.9% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 2%

ตัวเลขจีดีพีที่มีการขยายตัวได้ดีขึ้นในไตรมาสดังกล่าวนั้น ได้หนุนหุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้น โดยดัชนีหุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้น 1.2% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นสูงสุดในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ หุ้นอเมริกันเอ็กซ์เพรส หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา และหุ้นซิตี้กรุ๊ป ทะยานขึ้นแข็งแกร่งสุด

หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นเหนือระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ปรับตัวขึ้นกว่า 1% ขณะที่หุ้นโคโนโคฟิลิปส์ พุ่งขึ้น 8.8% ซึ่งนอกจากจะได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันแล้ว หุ้นโคโนโคฟิลิปส์ยังได้รับปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่า ทางบริษัทได้ตกลงขายสินทรัพย์ส่วนใหญ่ในแคนาดา ให้กับบริษัทเซโนวัส เอนเนอจี มูลค่า 1.32 หมื่นล้านดอลลาร์

ส่วนหุ้น Lululemon Athletica ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายชุดและอุปกรณ์สำหรับโยคะ ร่วงลง 23.4% หลังจากบริษัทคาดว่า ผลประกอบการรายไตรมาสจะออกมาต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดวอลล์สตรีท

อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวก แต่นักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขาย หลังจากเจ้าหน้าที่หลายคนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยล่าสุดนางลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยเดอโปล เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์เมื่อวานนี้ว่า จีดีพีสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวมากกว่า 2% ในปีหน้า และอัตราเงินเฟ้อจะกลับสู่การขยายตัวที่ยั่งยืนในระดับ 2% ในปีหน้า พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้

นักลงทุนจับตาการผลักดันร่างกฎหมายต่างๆของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลักดันร่างงบประมาณให้ผ่านสภาคองเกรสภายในช่วงเดือนเม.ย.นี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานราชการของสหรัฐ หรือ ชัตดาวน์

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ได้เสนองบประมาณมูลค่า 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมและสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก-สหรัฐ โดยจำนวนเงินดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณที่จะช่วยให้หน่วยงานราชการของสหรัฐสามารถดำเนินการต่อไปได้ภายหลังเดือนเม.ย อย่างไรก็ตาม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนหนึ่งได้แสดงความกังวลว่า ข้อเสนอของปธน.ทรัมป์อาจส่งผลให้เกิดการชัตดาวน์ เนื่องจากพรรคเดโมแครตปฏิเสธที่จะยอมรับข้อเสนอของรีพับลิกัน

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.พ., รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนก.พ. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ