ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) ด้วยแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของค่าเงินสกุลปอนด์ ภายหลังจากรัฐบาลอังกฤษได้ประกาศใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอน เพื่อเริ่มต้นกระบวนการเจรจาแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) อย่างเป็นทางการ
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 4.20 จุด หรือ -0.06% ปิดที่ 7,369.52 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อวานนี้ ได้รับปัจจัยลบจากการที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยค่าเงินปอนด์ทะยานขึ้นสู่ระดับ 1.2489 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2435 ดอลลาร์ในตลาดเงินนิวยอร์กเมื่อคืนวันพุธ
เมื่อวานนี้ รัฐบาลอังกฤษได้เปิดเผยรายงานสมุดปกขาวเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติ "เกรท รีพีล บิล" (Great Repeal Bill) ว่าด้วยกระบวนการถอดอำนาจทางกฎหมายของสหภาพยุโรป (EU) ออกจากประเทศอังกฤษ หลังจากนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ประกาศใช้มาตรา 50 แห่งสนธิสัญญาลิสบอนของสหภาพยุโรป เพื่อเริ่มกระบวนการ Brexit อย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การถอดอำนาจทางกฎหมายของ EU ในอังกฤษนั้นจะรวมไปถึงการยุติอำนาจสูงสุดของผู้พิพากษา EU ในอังกฤษด้วย
หุ้นจดทะเบียนรายใหญ่ที่น่าจับตา หุ้นลอนดอน สต็อก เอ็กซ์เชนจ์ กรุ๊ป ขยับขึ้น 0.9% หลังบริษัทเปิดเผยแผนการที่จะซื้อหุ้นกลับคืนในวงเงิน 200 ล้านปอนด์ โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่หน่วยงานต่อต้านการผูกขาดการค้าของสหภาพยุโรปได้ขัดขวางข้อตกลงควบรวมกิจการระหว่างลอนดอน สต็อก เอ็กซ์เชนจ์ กรุ๊ป และ Deutsche Boerse ซึ่งเป็นผู้บริหารจัดการตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ต