ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 13.01 จุด วิตกภาคการผลิต-ยอดขายรถยนต์สหรัฐชะลอตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 4, 2017 06:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (3 เม.ย.) หลังจากมีรายงานว่า ภาคการผลิตของสหรัฐชะลอตัวลงในเดือนมี.ค. ขณะที่ยอดขายรถยนต์เดือนมี.ค.ของสหรัฐปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 โดยข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้ตลาดวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่บริษัทจดทะเบียนรายใหญ่จะทยอยเปิดเผยผลประกอบการ และก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,650.21 จุด ลดลง 13.01 จุด หรือ -0.06% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,358.84 จุด ลดลง 3.88 จุด หรือ -0.16% ส่วนดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,894.68 จุด ลดลง 17.06 จุด หรือ -0.29%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากข้อมูลด้านการผลิตที่อ่อนแรงลงของสหรัฐ โดยบริษัทไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ขั้นสุดท้ายสำหรับภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 53.3 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 53.4 หลังจากแตะระดับ 54.2 ในเดือนก.พ.

ขณะที่ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM ปรับตัวลงสู่ระดับ 57.2 ในเดือนมี.ค จากระดับ 57.7 ในเดือนก.พ.

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบหลังจากออโต้ดาต้า คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านยานยนต์ของสหรัฐ รายงานว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ในตลาดสหรัฐร่วงลง 1.6% ในเดือนมี.ค. สู่ระดับ 1,555,859 คัน ซึ่งเป็นการปรับตัวลง 3 เดือนติดต่อกัน

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มรถยนต์ร่วงลงหลังจากออโต้ดาต้าเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว โดยหุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ร่วงลง 1.7% หุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ ดิ่งลง 3.37% และหุ้นเฟียต ไคร์สเลอร์ ร่วงลง 4.76%

หุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมรถยนต์ปรับตัวลงด้วยเช่นกัน โดยหุ้นคาร์แม็กซ์ อิงค์ ร่วงลง 3.1% หุ้นบอร์จวอร์เนอร์ อิงค์ ร่วงลง 3.15% และหุ้นโอรีลลี ออโต้โมทีฟ ปรับตัวลง 3.2%

ส่วนหุ้นบริษัทรายใหญ่ที่ร่วงลงและเป็นปัจจัยฉุดดัชนีดาวโจนส์อ่อนแรงลงนั้น รวมถึงหุ้นดูปองท์ หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ และหุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส

อย่างไรก็ตาม หุ้นเทสลา ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ ทะยานขึ้น 7.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่แข็งแกร่งในไตรมาสแรกปีนี้

นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งมีกำหนดจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมี.ค.ในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่โพลล์สำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนมี.ค.จะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ รวมถึงดุลการค้าเดือนก.พ., ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.พ., ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมี.ค.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนมี.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) , รายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 14-15 มี.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.พ.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังให้ความสำคัญต่อการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในวันที่ 6-7 เม.ย. โดยคาดว่าผู้นำทั้ง 2 จะหารือเกี่ยวกับประเด็นการค้า และเกาหลีเหนือ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ