ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 39.03 จุด รับข้อมูลศก.สดใส,หุ้นพลังงานฟื้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 5, 2017 06:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน และข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงยอดขาดดุลการค้าที่ลดลงอย่างมากในเดือนก.พ. อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับขึ้นในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนการประชุมซัมมิตระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน จะมีขึ้นในพฤหัสบดีและศุกร์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,689.24 จุด เพิ่มขึ้น 39.03 จุด หรือ +0.19% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,360.16 จุด เพิ่มขึ้น 1.32 จุด หรือ +0.06% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,898.61 จุด เพิ่มขึ้น 3.93 จุด หรือ +0.07%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐมีตัวเลขขาดดุลการค้าลดลง 9.6% ในเดือนก.พ. สู่ระดับ 4.36 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐจะมีตัวเลขขาดดุลการค้าลดลงสู่ระดับ 4.48 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ.

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังระบุว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนก.พ. ซึ่งปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 หลังจากเพิ่มขึ้น 1.5% ในเดือนม.ค. โดยได้แรงหนุนจากการขยายตัวของอุปสงค์เครื่องจักร และอุปกรณ์ไฟฟ้า

หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น โดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นราว 0.4% หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นกว่า 1% เมื่อคืนนี้ จากความคาดหวังที่ว่าการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะช่วยแก้ปัญหาปริมาณน้ำมันล้นตลาด

หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ พุ่งขึ้น 2% หลังจากนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว

หุ้นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกสินค้าแบรนด์ดัง ปรับตัวลดลง โดยหุ้นราล์ฟ ลอเรน หุ้นโคล์ท คอร์ป และหุ้นแอล แบรนด์ ต่างก็ปรับตัวลงกว่า 4% โดยหุ้นราล์ฟ ลอเรน ได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่า ทางบริษัทจะปิดร้านที่ Fifth Avenue ในแมนฮัทตัน และลดจำนวนพนักงาน โดยมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุน

นักวิเคราะห์กล่าวว่า แม้ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวก แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การประชุมซัมมิตระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐและจีนจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นี้ โดยคาดว่าผู้นำทั้งสองจะหารือกันในประเด็นการค้าและเกาหลีเหนือ

นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายยังได้รับปัจจัยลบจากข่าวที่ว่า นายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อวานนี้ โดยระบุว่าคำสนทนาของเขาต่อนักวิเคราะห์รายหนึ่งของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในปี 2012 อาจเป็นการเปิดเผยข้อมูลลับเกี่ยวกับทางเลือกในการใช้นโยบายของเฟด

ทั้งนี้ นายแลคเกอร์กล่าวว่า เขาอาจกระทำการที่ขัดต่อนโยบายการสื่อสารต่อบุคคลภายนอกของเฟด ซึ่งห้ามการให้ข้อมูลแก่บุคคลหรือองค์กรที่แสวงหากำไร เพื่อสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง

นอกจากนี้ นักลงทุนได้ชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมี.ค. ในวันศุกร์นี้ ขณะที่โพลล์สำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนมี.ค.จะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้น 235,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ.

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ รวมถึง ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมี.ค.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนมี.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) , รายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 14-15 มี.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.พ.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ