ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน และจากการที่นักลงทุนเริ่มคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในซีเรีย อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการซื้อขายก่อนที่บริษัทจดทะเบียนจะทยอยเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,658.02 จุด เพิ่มขึ้น 1.92 จุด หรือ +0.01% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,357.16 จุด เพิ่มขึ้น 1.62 จุด หรือ +0.07% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,880.93 จุด เพิ่มขึ้น 3.11 จุด หรือ +0.05%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยหุ้นทรานส์โอเชียน พุ่งขึ้น 2.6% หุ้นเฮสส์ ทะยานขึ้น 4%
หุ้นโฮล ฟู๊ดส์ มาร์เก็ต พุ่งขึ้น 10% หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า จานา พาร์ทเนอร์ วางแผนที่จะเข้าซื้อหุ้นจำนวน 9% ในบริษัทโฮล ฟู๊ดส์ มาร์เก็ต
หุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล โฮลดิ้งส์ ขยับขึ้น 0.9% ขณะที่หุ้นสวิฟท์ ทรานส์ปอร์ทเตชัน พุ่งขึ้น 24% หลังจากมีรายงานว่าสวิฟท์วางแผนที่จะควบรวมกิจการกับบริษัทไนท์ ทรานส์ปอร์ทเตชัน คิดเป็นมูลค่า 6 พันล้านดอลลาร์
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย หลังจากนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐไม่ได้มีเป้าหมายสำคัญในการโค่นล้มประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาดออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ นายทิลเลอร์สันกล่าวว่า สหรัฐได้มุ่งความสนใจไปที่การต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ในซีเรีย ไม่ใช่การโค่นล้มรัฐบาลของปธน.บาชาร์ อัล-อัสซาด
อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์และดัชนีหลักตัวอื่นๆได้ปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการซื้อขาย ก่อนที่บริษัทจดทะเบียนจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ รวมถึงเจพีมอร์แกน เชส, เวลส์ ฟาร์โก และซิตี้กรุ๊ป ซึ่งจะเปิดเผยผลประกอบการในวันพฤหัสบดีนี้
นักลงทุนจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน โดยตลาดการเงินจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อจับสัญญาณว่า เฟดมีความเชื่อมั่นมากขึ้นหรือน้อยลงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมี.ค.ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ราคานำเข้าและส่งออกเดือนมี.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน, อัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค., ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.พ.