ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศได้ส่งผลให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งรวมถึงหุ้น โดยรายงานล่าสุดระบุว่า เกาหลีเหนืออาจโจมตีสหรัฐด้วยนิวเคลียร์ หากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าสหรัฐเตรียมการโจมตีเกาหลีเหนือ รวมทั้งความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ลงระหว่างรัสเซียและสหรัฐ หลังจากสหรัฐระบุว่ารัสเซียให้การสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่บริษัทจดทะเบียนจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,651.30 จุด ลดลง 6.72 จุด หรือ -0.03% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,353.78 จุด ลดลง 3.38 จุด หรือ -0.14% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,866.77 จุด ลดลง 14.15 จุด หรือ -0.24%
นักลงทุนวิตกกังวลว่าสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างประเทศอาจรุนแรงและบานปลาย หลังจากหนังสือพิมพ์โรดอง ซินมุน ของเกาหลีเหนือ รายงานว่า เกาหลีเหนืออาจทำการโจมตีสหรัฐด้วยระเบิดนิวเคลียร์ หากมีสัญญาณบ่งชี้ว่ากำลังเตรียมการโจมตีเกาหลีเหนือ โดยเกาหลีเหนือจะไม่เพียงโจมตีฐานทัพสหรัฐในเกาหลีใต้ หรือในมหาสมุทรแปซิฟิก แต่จะโจมตีแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐ
ทั้งนี้ คำขู่ของเกาหลีเหนือดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่กองเรือรบของสหรัฐกำลังแล่นเข้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก
นักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเกาหลีเหนือมักทำการทดสอบนิวเคลียร์เมื่อมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น โดยในวันเสาร์นี้ จะเป็นวันครบรอบวันเกิดปีที่ 105 ของนายคิม อิล ซุง ผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือ และเป็นปู่ของนายคิม จอง อึน ผู้นำคนปัจจุบัน ส่วนในวันที่ 25 เม.ย. จะเป็นวันครบรอบ 85 ปีแห่งการก่อตั้งกองทัพประชาชนเกาหลี
ส่วนความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐและรัสเซียนั้น ล่าสุดนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐระบุว่า รัสเซียให้การสนับสนุนรัฐบาลของปธน.อัสซาด พร้อมกับยื่นคำขาดว่า รัสเซียจะต้องเลือกระหว่างการเป็นพันธมิตรกับสหรัฐและประเทศที่มีจุดยืนเหมือนกับสหรัฐ หรือจะยังคงสนับสนุนปธน.อัสซาดของซีเรีย รวมทั้งอิหร่าน และกลุ่มฮิสบอลลาห์
ทางด้านนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า ขณะนี้ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐกำลังถึงจุดที่ยากลำบากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงสิ้นสุดสงครามเย็น และคาดหวังว่าสหรัฐจะเห็นพ้องกับการให้นานาชาติทำการสอบสวนเกี่ยวกับการใช้อาวุธเคมีของซีเรีย
หุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล โฮลดิ้งส์ อิงค์ (UAL) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ร่วงลง 1.1% หลังจากมีการเผยแพร่คลิปวีดีโอในโลกโซเชียลของเหตุการณ์ที่ชายชาวเอเชียคนหนึ่งกำลังถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 3 คนลากตัวลงจากเครื่องบินของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ที่ท่าอากาศยานโอแฮร์ ในชิคาโก ซึ่งสร้างความไม่พอใจในโลกโซเชียล
หุ้นแอปเปิลปิดร่วงลง 1.1% หลังจากบริษัทแอปเปิล อิงค์ สูญเสียตำแหน่งอันดับหนึ่งในฐานะแบรนด์ที่ดีที่สุดของนิตยสาร Laptop Magazine
หุ้นซูเปอร์แวลู ทะยานขึ้น 5.5% หลังจากซูเปอร์แวลูประกาศซื้อกิจการยูนิไฟด์ โกรเซอร์ส ในวงเงิน 375 ล้านดอลลาร์
นักวิเคราะห์จากเวดบุช ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า นอกเหนือจากประเด็นทางการเมืองระหว่างประเทศแล้ว นักลงทุนส่วนใหญ่ยังชะลอการซื้อขายก่อนที่บริษัทจดทะเบียนจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ รวมถึงเจพีมอร์แกน เชส, เวลส์ ฟาร์โก และซิตี้กรุ๊ป ซึ่งจะเปิดเผยผลประกอบการในวันพฤหัสบดีนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ราคานำเข้าและส่งออกเดือนมี.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน, อัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค., ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.พ.