ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นในวันนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นมากกว่า 100 จุด ขณะที่ปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วัน หลังจากดิ่งลงกว่า 200 จุดในช่วง 2 วันที่ผ่านมา
นักลงทุนส่งแรงซื้อขานรับการเปิดเผยผลประกอบการของอเมริกัน เอ็กซ์เพรสในวันนี้
ณ เวลา 23.01 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 20,546.45 จุด เพิ่มขึ้น 141.96 จุด หรือ 0.70%
หุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรสทะยานขึ้นมากที่สุด
อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์มีแนวโน้มปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในเดือนนี้นับตั้งแต่เดือนม.ค.2016
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการ รวมทั้งการเลือกตั้งในฝรั่งเศส และสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี
อเมริกัน เอ็กซ์เพรส ซึ่งเป็นบริษัทบัตรเครดิตชั้นนำของสหรัฐ เปิดเผยกำไรในไตรมาสแรกที่ลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ เนื่องจากผู้ถือบัตรเครดิตมีการใช้จ่ายมากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ปัจจัยบวกจากค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น และการขยายตัวของสินเชื่อในไตรมาสแรก
ขณะเดียวกัน บริษัทยังแสดงความมั่นใจว่าจะมีกำไรทั้งปีตามเป้าที่วางไว้ที่ระดับ 5.60-5.80 ดอลลาร์/หุ้น
ทั้งนี้ อเมริกัน เอ็กซ์เพรสเปิดเผยว่าบริษัทมีกำไรในไตรมาสแรก ลดลง 13% สู่ระดับ 1.21 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.34 ดอลลาร์/หุ้น แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.28 ดอลลาร์/หุ้น
บริษัทเวอไรซอน คอมมิวนิเคชั่น รายงานตัวเลขกำไรและรายได้ในไตรมาส 1 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ เวอไรซอนเปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไรต่อหุ้นที่ระดับ 95 เซนต์ ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 99 เซนต์
นอกจากนี้ ทางบริษัทมีรายได้ลดลงสู่ระดับ 2.981 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 3.077 หมื่นล้านดอลลาร์
ผลการสำรวจในวันนี้แสดงให้เห็นว่า นายเอมมานูเอล มาครอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ โดยมีแนวคิดสายกลาง และนางมารีน เลอเปน ผู้สมัครชิงตำแหน่ง ประธานาธิบดีจากพรรค National Front (FN) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองชูนโยบายประชานิยมขวาจัด และหนุนให้ฝรั่งเศสแยกตัวจากสหภาพยุโรป จะมีคะแนนนำในการเลือกตั้งรอบแรก ของการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในวันที่ 23 เม.ย. และทั้งสองจะควงคู่กันผ่านเข้าสู่การเลือกตั้งรอบ 2 ในวันที่ 7 พ.ค.
ผลการสำรวจของ Harris Interactive พบว่า นายมาครองจะได้คะแนนเสียง 25% ในการเลือกตั้งรอบแรก ขณะที่นางเลอเปนได้คะแนน 22%
ส่วนในการเลือกตั้งรอบ 2 นั้น ผลการสำรวจพบว่า นายมาครองจะชนะนางเลอเปนด้วยคะแนน 66% ต่อ 34% และหากเป็นนายฟรองซัวส์ ฟิยง อดีตนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส จากพรรค Les Republicains ที่เข้ารอบ 2 นายมาครองก็จะประสบชัยชนะเช่นกัน ด้วยคะแนน 68% ต่อ 32% และหากเป็นนายฌอง ลุค เมลองชอง ผู้นำขบวนการ La France insoumise (FI) และมีแนวคิดสนับสนุนฝ่ายซ้าย นายมาครองก็จะประสบชัยชนะ ด้วยคะแนน 60% ต่อ 40%
หนังสือพิมพ์โรดอง ซินมุน ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของพรรคแรงงานของเกาหลีเหนือ ระบุว่า เกาหลีเหนือจะชิงโจมตีสหรัฐด้วยอานุภาพการทำลายล้างอย่างรุนแรงที่สุด ซึ่งจะ ทำลายกองกำลังสหรัฐทั้งในเกาหลีใต้ และในแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐ
"หากเราเปิดฉากชิงโจมตีสหรัฐด้วยอานุภาพการทำลายล้างอย่างรุนแรงที่สุด ก็จะเป็นการทำลายกองกำลังของสหรัฐทั้งในเกาหลีใต้และภูมิภาคใกล้เคียง รวมทั้งในแผ่นดิน ใหญ่ของสหรัฐ ซึ่งจะถูกทำลายกลายเป็นเศษขี้เถ้า" โรดอง ซินมุนรายงาน
นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.กลาโหมสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐกำลังทบทวนแนวทางที่จะสร้างแรงกดดันต่อเกาหลีเหนือเกี่ยวกับโครงการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์
ส่วนนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า ยุคสมัยที่สหรัฐใช้ความอดทนกับเกาหลีเหนือได้จบสิ้นลงแล้ว
ทางด้านนายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า การใช้ปฏิบัติการทางทหาร จะต้องเป็นทางเลือกหนึ่งในการใช้กดดันเกาหลีเหนือ
"การปล่อยให้ทรราชคนนี้ (คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ) อยู่ในอำนาจต่อไป เป็นสิ่งที่ประเทศที่มีอารยะธรรมไม่ควรปล่อยให้เกิดขึ้น" เขากล่าว
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 10,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 244,000 ราย หลังจากเพิ่มขึ้นติดต่อ กัน 3 สัปดาห์
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 242,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
ตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 111 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลด ลง 4,250 ราย สู่ระดับ 243,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
สำหรับจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 เม.ย. มีจำนวนลดลง 49,000 ราย สู่ระดับ 1.98 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด นับตั้งแต่เดือนเม.ย.2000 ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 2.02 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2000