ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกครั้งแรกในรอบ 5 วันทำการเมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) ด้วยแรงหนุนจากหุ้นบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่บางแห่ง โดยเฉพาะยูนิลีเวอร์ ซึ่งเปิดเผยรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งในช่วงไตรมาสแรก
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 4.18 จุด หรือ 0.06% ปิดที่ 7,118.54 จุด
ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลงต่อเนื่องหลายวันทำการก่อนหน้านี้ จากแรงกดดันของสถานการณ์การเมืองในอังกฤษ หลังนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ได้เสนอให้มีการยุบสภาและจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดในวันที่ 8 มิ.ย.นี้ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และได้ฉุดหุ้นกลุ่มบริษัทข้ามชาติร่วงลงกันถ้วนหน้า
อย่างไรก็ตาม ดัชนีตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ จากแรงหนุนของหุ้นบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่อย่างยูนิลีเวอร์ที่ปรับตัวขึ้น 0.3% หลังผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ดังกล่าว เปิดเผยรายงานว่า บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้
หุ้นเบอร์เบอร์รี กรุ๊ป ดีดตัวขึ้น 1.7% หลังร่วงลง 7.9% เมื่อวันพุธ สืบเนื่องจากรายงานผลประกอบการอันย่ำแย่ โดยบริษัทค้าปลีกสินค้าหรูดังกล่าวรายงานว่า บริษัทมีรายได้ลดลงสู่ระดับ 2.06 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งปีหลังของปีงบการเงินที่ผ่านมา
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่น่าจับตา หุ้นริโอ ทินโต เพิ่มขึ้น 1.2% หลังบริษัทประกาศปรับลดกำลังการผลิตทองแดงในปีนี้
นักลงทุนจับตาการเลือกตั้งของฝรั่งเศสในวันอาทิตย์นี้อย่างใกล้ชิด โดยผลการสำรวจล่าสุดของ Harris Interactive แสดงให้เห็นว่า นายเอมมานูเอล มาครอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ ซึ่งมีแนวคิดสายกลาง จะได้คะแนนเสียง 25% ในการเลือกตั้งรอบแรก ขณะที่นางมารีน เลอเปน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรค National Front (FN) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองชูนโยบายประชานิยมขวาจัด และหนุนให้ฝรั่งเศสแยกตัวจากสหภาพยุโรป จะได้คะแนน 22%