ตลาดหุ้นเอเชียภาคบ่ายปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ปรับลดคาดการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อในการประชุมนโยบายการเงินวันนี้ และจากการที่นักลงทุนได้ซึมซับมาตรการปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีการเปิดเผยเมื่อวานนี้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 19,243.76 จุด ลดลง 45.67 จุด, -0.24% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 24,575.01 จุด ลดลง 3.42 จุด, -0.01% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,767.67 จุด ลดลง 1.25 จุด -0.07% ขณะที่ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 30,141.39 จุด, เพิ่มขึ้น 8.04 จุด, +0.03%
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ BOJ ได้เสร็จสิ้นการประชุมในวันนี้ โดยที่ประชุมมีมติคงนโยบายการเงินเชิงรุก และได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาอาหาร ลงสู่ระดับ 1.4% ในปีงบประมาณ 2560 จากตัวเลขประมาณการครั้งก่อนที่ระดับ 1.5%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังได้ซึมซับมาตรการภาษีของปธน.ทรัมป์ โดยนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ และนายแกรี โคห์น ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการปฏิรูปภาษีเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า จะมีการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลสู่ระดับ 15% จากปัจจุบันที่ระดับ 35% อีกทั้งจะมีการปรับลดภาษีเงินได้ของธุรกิจขนาดย่อม ซึ่งรวมถึงรายได้ส่วนบุคคลของเจ้าของธุรกิจ สู่ระดับ 15% จากปัจจุบันที่ระดับ 39.6%
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมองว่ามาตรการภาษีดังกล่าวไม่ได้ลงรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับลดภาษีที่เรียกเก็บจากกำไรที่บริษัทข้ามชาติส่งกลับสู่สหรัฐ นอกจากนี้ นายมนูชินยังปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ว่า แผนการปรับลดภาษีดังกล่าวจะส่งผลให้สหรัฐขาดดุลงบประมาณมากขึ้นหรือไม่ โดยเขากล่าวแต่เพียงว่า รัฐบาลจะได้รับรายได้ที่ชดเชยมาจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ