ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) ขณะที่ดัชนี NASDAQ ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ รวมถึงคอมแคสต์ และอเมซอน เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ ประกอบกับการที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่สภาคองเกรสสหรัฐจะลงมติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงการชัตดาวน์นั้น ได้สกัดแรงบวกในตลาดและส่งผลให้ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,981.33 จุด เพิ่มขึ้น 6.24 จุด หรือ +0.03% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,048.94 จุด เพิ่มขึ้น 23.71 จุด หรือ +0.39% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,388.77 จุด เพิ่มขึ้น 1.32 จุด หรือ +0.06%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัทคอมแคสต์เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1/2560 อยู่ที่ 53 เซนต์ ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 44 เซนต์ ขณะที่รายได้อยู่ที่ระดับ 2.046 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 2.012 หมื่นล้านดอลลาร์
ด้านบริษัทยูไนเต็ด พาร์เซิล เซอร์วิส (UPS) เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1/2560 อยู่ที่ 1.32 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.29 ดอลลาร์/หุ้น ขณะที่รายได้อยู่ที่ระดับ 1.532 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.517 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ผลประกอบการที่แข็งแกร่งช่วยหนุนหุ้นคอมแคสต์ปิดตลาดพุ่งขึ้น 2.1% ขณะที่หุ้น UPS ปรับตัวขึ้นกว่า 1%
หุ้นอเมซอนพุ่งขึ้นกว่า 3% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิพุ่งขึ้น 41% สู่ระดับ 724 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.48 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.12 ดอลลาร์ต่อหุ้น
หุ้นบริสตอล-ไมเยอร์ สควิบบ์ พุ่งขึ้น 3.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 1/2560
หุ้นอันเดอร์ อาร์เมอร์ ผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬาชั้นนำ ทะยานขึ้น 10% หลังจากทางบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของตลาด
หุ้น PayPal พุ่งขึ้น 6.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ และยังได้ประกาศแผนการซื้อคืนหุ้นมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันในระหว่างวันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ขยับขึ้นเพียง 0.7% ในเดือนมี.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.2%
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 14,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 257,000 ราย ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 245,000 ราย
ด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ลดลง 0.8% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้รับผลกระทบจากราคาบ้านที่เพิ่มขึ้น และสต็อกบ้านในระดับต่ำ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่สภาคองเกรสสหรัฐจะลงมติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวที่จะช่วยให้รัฐบาลหลีกเลี่ยงภาวะการขาดแคลนงบประมาณในการบริหารประเทศ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวจะต้องผ่านการลงมติในสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาในวันนี้ และหากได้รับความเห็นชอบจากทั้ง 2 สภา ก็จะต้องส่งต่อไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อลงนามรับรองเป็นกฎหมายในวันเดียวกัน
ทั้งนี้ หากสภาคองเกรสไม่ให้การอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวภายในเส้นตายเวลาเที่ยงคืนของวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ก็จะส่งผลให้มีการปลดข้าราชการจำนวนหลายล้านคนเป็นการชั่วคราว และปิดหน่วยงานของรัฐบาลบางส่วน เนื่องจากขาดงบประมาณในการว่าจ้างพนักงาน
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 1/2560 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ไตรมาส 1/2560