ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (3 พ.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ตามคาด พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดอ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อผลประกอบการของบริษัทแอปเปิล อิงค์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,957.90 จุด เพิ่มขึ้น 8.01 จุด หรือ +0.04% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,388.13 จุด ลดลง 3.04 จุด หรือ -0.13% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,072.55 จุด ลดลง 22.82 จุด หรือ -0.37%
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ที่ระดับ 0.75-1.00% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ ขณะที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปีนี้
แถลงการณ์ของคณะกรรมการ FOMC ยังได้ระบุถึงเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการขยายตัว 0.7% ในไตรมาส 1 ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี โดยกล่าวว่า "FOMC มองว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสแรกมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และคาดว่า ด้วยการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป จะทำให้เศรษฐกิจจะสามารถขยายตัวในระดับปานกลาง"
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ว่าเฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้งในปีนี้
ดัชนีหุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้น 0.6% หลังจากเฟดส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปอาจจะมีขึ้นในการประชุมเดือนมิ.ย.
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากผลการประชุมของเฟดเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดอ่อนแรงลง หลังจากพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ โดยดัชนี Nasdaq ถูกกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทแอปเปิล อิงค์
หุ้นแอปเปิลปิดตลาดลดลง 0.3% หลังจากที่ร่วงลงเกือบ 2% ในระหว่างวัน ภายหลังจากบริษัทเปิดเผยว่า ยอดขายไอโฟนอยู่ที่ 50.8 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ตามปีงบการเงินของบริษัท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ระดับ 51 ล้านดอลลาร์ และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 52 ล้านดอลลาร์
ส่วนกำไรสุทธิของแอปเปิลอยู่ที่ระดับ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 2.10 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ที่ระดับ 1.05 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 2.02 ดอลลาร์/หุ้น
หุ้นยัม แบรนด์ส อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของพิซซ่า ฮัท และเคนตั๊กกี ฟรายชิกเก้น (KFC) พุ่งขึ้น 2.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิ 280 ล้านดอลลาร์ หรือ 77 เซนต์/หุ้น ส่วนรายได้อยู่ที่ระดับ 1.42 พันล้านดอลลาร์ โดยสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.35 พันล้านดอลลาร์
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ รายงานว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 177,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. หลังจากที่พุ่งขึ้นอย่างมากในเดือนมี.ค. โดยตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.อยู่ในระดับใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 175,000 ตำแหน่ง
นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนเม.ย.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.6%