ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.) หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียนบางแห่ง และการแข็งค่าของยูโร ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทส่งออกของยุโรป
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.6% ปิดที่ 394.03 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,383.42 จุด ลดลง 17.04 จุด หรือ -0.32% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,711.06 จุด ลดลง 46.40 จุด หรือ -0.36% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,386.63 จุด เพิ่มขึ้น 1.39 จุด หรือ +0.02%
ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหราชอาณาจักรสู่ระดับ 1.9% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนก.พ.ที่ระดับ 2.0%
นอกจากนี้ BoE ยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในสหราชอาณาจักร สู่ระดับ 2.7% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนก.พ.ที่ระดับ 2.4% พร้อมกับคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อจะแตะระดับสูงสุดที่ 2.8% ในไตรมาสที่ 4 ในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะแตะระดับสูงสุดในไตรมาส 2 ของปีหน้า
หุ้นเทเลโฟนิกา ร่วงลง 4% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิไตรมาสแรกร่วงลง 42%
หุ้นเครดิต อากริโคล ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของฝรั่งเศสเมื่อประเมินจากมูลค่าสินทรัพย์ ปิดขยับลง 0.3% หลังจากที่พุ่งขึ้นในระหว่างวัน ภายหลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2560 พุ่งขึ้น 3 เท่า สู่ระดับ 845 ล้านยูโร (918 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากระดับ 227 ล้านยูโรในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
หุ้นยูนิเครดิต ดีดตัวขึ้น 3.7% หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรไตรมาสแรก 907 ล้านยูโร ซึ่งเป็นการพลิกกลับมาทำกำไรหลังจากที่ขาดทุนกว่า 1.3 หมื่นล้านยูโรในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว