ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าลดลงในวันนี้ เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากเงินเยนที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ดัชนีนิกเกอิปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เนื่องจากตลาดขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าลดลง 30.59 จุด หรือ 0.16% แตะที่ 19,523.27 จุด
ในช่วงแรกนั้น ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดพุ่งขึ้นหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ แต่หลังจากนั้นไม่นาน ดัชนีนิกเกอิเริ่มอ่อนแรงลงเนื่องจากเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นโตเกียวยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความผันผวนทางการเมืองในสหรัฐ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
อย่างไรก็ตาม การดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก และข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐได้ช่วยจำกัดการร่วงลงของตลาดหุ้นโตเกียวในช่วงเช้านี้ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียรายงานเมื่อคืนนี้ว่า ดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือนพ.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 38.8 จากระดับ 22.0 ในเดือนเม.ย. ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 232,000 ราย สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 240,000 ราย
หุ้นกลุ่มส่งออกร่วงลงเนื่องจากเงินเยนแข็งค่า โดยหุ้นซูซูกิ มอเตอร์ ลดลง 1.1% และหุ้นแคนนอน ขยับลง 0.9%
หุ้นทาคาตะ พุ่งขึ้น 20% หลังจากบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ 4 แห่ง ซึ่งได้แก่ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป, มาสด้า มอเตอร์ คอร์ป, ซูบารุ คอร์ป และบีเอ็มดับเบิลยู เอจี ได้ตกลงจ่ายเงิน 553 ล้านดอลลาร์ เพื่อยุติคดีความทางกฎหมายเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากความบกพร่องของถุงยางนิรภัยที่ผลิตโดยบริษัททาคาตะ คอร์ป