ดัชนีดาวโจนส์เปิดแดนบวกในวันนี้ ขณะที่ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน โดยไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดที่เมืองแมนเชสเตอร์ของอังกฤษ
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยงบประมาณประจำปี 2018 ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในวันนี้ โดยคาดว่าจะมีการปรับลดการใช้จ่ายของรัฐบาล และลดการขาดดุลงบประมาณ
ณ เวลา 20.40 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 20,930.01 จุด เพิ่มขึ้น 35.73 จุด หรือ 0.16%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้น IBM ทะยานขึ้นมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก
กลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีที่เมืองแมนเชสเตอร์ของอังกฤษ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
IS ออกแถลงการณ์ระบุว่า การโจมตีดังกล่าวมีการดำเนินการด้วยการใช้วัตถุระเบิดที่มีการติดตั้งในงานคอนเสิร์ตเมื่อคืนนี้
"นักรบคนหนึ่งของเราสามารถนำวัตถุระเบิดเข้าไปภายในงานคอนเสิร์ตในเมืองแมนเชสเตอร์" แถลงการณ์ระบุ
ทั้งนี้ เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นที่แมนเชสเตอร์ อารีนา ซึ่งเป็นสถานที่จัดการแสดงคอนเสิร์ตของนักร้องสาว อาเรียนา แกรนเด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 22 ราย และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 59 ราย
อย่างไรก็ดี เหตุระเบิดดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการซื้อขายในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้แต่อย่างใด
นักลงทุนให้ความสนใจต่องบประมาณประจำปี 2018 ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ โดยทำเนียบขาวหวังที่จะปรับลดการใช้จ่ายของรัฐบาลจำนวน 3.6 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงเวลา 10 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ งบประมาณดังกล่าวยังคาดว่ารัฐบาลจะสามารถปรับลดภาษีสำหรับภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน
ราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พลิกดีดตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากที่ร่วงลงก่อนหน้านี้จากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีแผนขายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ออกครึ่งหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน และบั่นทอนความพยายามของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในการปรับลดกำลังการผลิตเพื่อลดปริมาณน้ำมันในตลาด
ณ เวลา 20.58 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX บวก 10 เซนต์ หรือ 0.20% สู่ระดับ 51.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ ทำเนียบขาวระบุว่า ปธน.ทรัมป์เสนอให้รัฐบาลสหรัฐทำการขายน้ำมัน SPR ออกครึ่งหนึ่ง เพื่อนำรายได้เข้าสู่งบประมาณของประเทศ
แผนของปธน.ทรัมป์จะทำให้มีการขายน้ำมัน SPR ออกครึ่งหนึ่งในช่วงปี 2018-2027 เพื่อให้รัฐบาลมีรายได้ 1.65 หมื่นล้านดอลลาร์ตั้งแต่เดือนต.ค.2018
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายรายในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยผู้ที่จะกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้ ได้แก่ นายนีล แคชคารี ประธานเฟด สาขามินนีอาโพลิส และนายแพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังติดตามการเดินทางเยือนต่างประเทศเป็นครั้งแรกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ขณะนี้ ปธน.ทรัมป์อยู่ระหว่างการเยือนอิสราเอลในวันนี้ โดยเขาหวังที่จะรื้อฟื้นกระบวนการเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลและปาเลสเตน์ หลังจากที่เดินทางเยือนซาอุดิอาระเบียในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้มีการลงนามในข้อตกลงขายอาวุธแก่ซาอุดิอาระเบียมูลค่าถึง 3.50 แสนล้านดอลลาร์ ก่อนที่จะเดินทางเยือนอิตาลี, นครรัฐวาติกัน และเบลเยียม