ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 พ.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของประเทศยูโรโซน ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และดัชนี PMI ภาคการผลิตของเยอรมนี อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวร่วงลง หลังจากเกิดเหตุก่อการร้ายที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ดีดตัวขึ้น 0.2% ปิดที่ 392.02 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,348.16 จุด เพิ่มขึ้น 25.28 จุด หรือ +0.47% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,659.15 จุด เพิ่มขึ้น 39.69 จุด หรือ +0.31% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,485.29 จุด ลดลง 11.05 จุด หรือ -0.15%
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติเยอรมนีรายงานว่า GDP ในไตรมาสแรกของปีนี้ ขยายตัว 0.6% เทียบรายปี โดยได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของยอดส่งออก รวมทั้งการลงทุนในอุตสาหกรรมเครื่องจักรและการก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้น
ทางด้านไอเอชเอส มาร์กิตระบุว่า ดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นเดือนพ.ค.ของฝรั่งเศส ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 58.0 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 56.8 ส่วนดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนพ.ค.ของเยอรมนี ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 59.4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 48 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 58.0
หุ้นโนเกีย พุ่งขึ้น 6.4% หลังจากโนเกียสามารถยุติคดีความทางกฎหมายกับบริษัทแอปเปิล อิงค์
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวปรับตัวลง หลังจากเกิดเหตุลอบวางระเบิดที่แมนเชสเตอร์ อารีนา ซึ่งเป็นสถานที่จัดการแสดงคอนเสิร์ตของนักร้องสาว อาเรียนา แกรนเด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 22 ราย และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 59 ราย โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถระบุตัวมือระเบิดชื่อ ซัลแมน อาเบดี หรือซัลแมน รามาดอน อาเบดี
ทั้งนี้ หุ้นเมอร์ลิน เอนเตอร์เทนเมนท์ ร่วงลง 1.5% และหุ้นอินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเทล ปรับตัวลง 0.2%
ส่วนตลาดหุ้นลอนดอนปิดตลาดในแดนลบ หลังจากเกิดเหตุโจมตีในเมืองแมนเชสเตอร์ ขณะที่พรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศยกเลิกการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง หลังจากเกิดเหตุการณ์รุนแรงในครั้งนี้