ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 พ.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากราคาน้ำมันดิบทรุดตัวลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากความผิดหวังต่อมติการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปก ที่ขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีกเพียง 9 เดือน โดยไม่มีการปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้น
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.1% ปิดที่ 392.14 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,337.16 จุด ลดลง 4.18 จุด หรือ -0.08% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ระดับ 12,621.72 จุด ลดลง 21.15 จุด หรือ -0.17% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,517.71 จุด เพิ่มขึ้น 2.81 จุด หรือ +0.04%
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงเกือบ 5% เมื่อคืนนี้ ภายหลังจากที่ประชุมของกลุ่มโอเปก และประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก ซึ่งรวมถึงรัสเซีย มีมติขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือน จนถึงเดือนมี.ค.ปีหน้า โดยไม่มีการปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้น
นักลงทุนผิดหวังต่อมติการประชุมของโอเปกที่ไม่ได้มีการปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้น และก่อนหน้านี้ก็มีกระแสคาดการณ์ว่า โอเปกจะขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 12 เดือน
ทั้งนี้ โอเปกและกลุ่มนอกโอเปกจะยังคงผลิตน้ำมันรวมกันราว 1.8 ล้านบาร์เรล/วันต่อไปอีก 9 เดือน
หุ้น Eni SpA ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของอิตาลี ร่วงลง 1.9% หุ้นบีพี ร่วงลง 1.1% หุ้นโททาล ลดลง 0.9% หุ้นเอเมค ฟอสเตอร์ วีเลอร์ ดิ่งลง 5.6% และหุ้นไซเพม เอสพีเอ ร่วงลง 3.1%
หุ้นปิโตรแฟค ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของยุโรป ทรุดฮวบลงถึง 30% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวที่ทางบริษัทประกาศปลดนายมาร์วัน เชดิด ออกจากตำแหน่งซีอีโอชั่วคราว
หุ้นเดลี เมล แอนด์ เจนเนอรัล ทรัสต์ ดิ่งลง 6.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิลดลงในไตรมาสแรกปีนี้