ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (30 พ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรป หลังจากมีรายงานข่าวว่า อิตาลีอาจจะจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด รวมทั้งความกังวลที่ว่า กรีซอาจผิดนัดชำระหนี้ หากเจ้าหนี้ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือทางการเงินครั้งใหม่
ดัชนี Stoxx Europe 600 index ปรับตัวลง 0.2% ปิดที่ 390.50 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,305.94 จุด ลดลง 26.53 จุด หรือ -0.50% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,598.68 จุด ลดลง 30.27 จุด หรือ -0.24% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,526.51 จุด ลดลง 21.12 จุด หรือ -0.28%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรป หลังจากที่นายมัตเตโอ เรนซี อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลี กล่าวว่า มีความเหมาะสมที่อิตาลีจะจัดการเลือกตั้งในวันเดียวกับเยอรมนี ซึ่งมีกำหนดในวันที่ 24 ก.ย. ขณะที่อิตาลีมีกำหนดเลือกตั้งในเดือนพ.ค.2018
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลว่ากรีซอาจผิดนัดชำระหนี้ หากเจ้าหนี้ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือทางการเงินครั้งใหม่
ทั้งนี้ รัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซน (ยูโรกรุ๊ป), กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และรัฐบาลกรีซ ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินเพื่อบรรเทาวิกฤตหนี้กรีซ ในการประชุมเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา และคาดว่าจะเลื่อนการประชุมเพื่อตัดสินใจในเรืองดังกล่าวออกไปเป็นช่วงกลางเดือนมิ.ย.นี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเลือกตั้งในอังกฤษ หลังผลการสำรวจล่าสุดพบว่า คะแนนนิยมของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง
หุ้นอินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดท แอร์ไลน์ส ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสายการบินบริติช แอร์เวย์ส ร่วงลง 1.4% หลังจากบริติช แอร์เวย์สประสบปัญหาระบบคอมพิวเตอร์ขัดข้องตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีการประกาศยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดในสนามบินฮีทโธร์ว และสนามบินแกตวิค หลังจากที่เกิดปัญหากับระบบไฟฟ้า จนทำให้การดำเนินงานของ BA ทั่วโลกหยุดชะงักลง และกระทบต่อระบบคอลล์เซ็นเตอร์ และเว็บไซต์
อย่างไรก็ตาม สายการบินบริติช แอร์เวย์สได้ออกแถลงการณ์ล่าสุดว่า ทางบริษัทสามารถกลับมาให้บริการทุกเที่ยวบินจากสนามบินฮีทโธร์ว และสนามบินแกตวิคเมื่อวานนี้