ดัชนีดาวโจนส์สามารถปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ แม้มีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่น่าผิดหวัง
ณ เวลา 20.36 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 21,168.48 จุด เพิ่มขึ้น 24.19 จุด หรือ 0.09%
ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในการซื้อขายระหว่างวันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.
นอกจากดัชนีดาวโจนส์แล้ว ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq ก็สามารถปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน
หุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้น 3M ทะยานขึ้นมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 138,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 174,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.3% จากระดับ 4.4% ในเดือนเม.ย.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. และอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.4%
กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 147,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานลดลง 9,000 ตำแหน่ง
กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนมี.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 50,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 79,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนเม.ย. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 174,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 211,000 ตำแหน่ง
ขณะเดียวกัน ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ค.
ทั้งนี้ ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ
ส่วนตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกำลังแรงงานต่อจำนวนประชากรทั้งหมด เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 62.7%
การเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานในวันนี้มีขึ้น ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 13-14 มิ.ย.
CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึงเกือบ 94% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้