ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (12 มิ.ย.) ด้วยแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองในอังกฤษ หลังพรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ สูญเสียเสียงข้างมากในสภาสามัญชนจากการเลือกตั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการผลักดันนโยบายต่างๆของรัฐบาล โดยเฉพาะในการเดินหน้าเจรจาแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ดัชนี FTSE 100 ลดลง 15.46 จุด หรือ -0.21% ปิดที่ 7,511.87 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลง แม้จะมีปัจจัยหนุนบางส่วนจากการที่ค่าเงินสกุลปอนด์ร่วงลง สืบเนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในอังกฤษ หลังพรรคอนุรักษ์นิยมของนายกฯเมย์ไม่สามารถครองเสียงข้างมากในสภาสามัญชนและจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้
หุ้นบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ที่น่าจับตา หุ้นรอยัล ดัตช์ เชลล์ พุ่งขึ้น 1.6% และหุ้นจอห์นสัน แมทเธย์ บริษัทเคมีภัณฑ์รายใหญ่ เพิ่มขึ้น 2%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสื่อสารปรับตัวขึ้น โดยหุ้นโวดาโฟน พุ่งขึ้น 1.5% หลังธนาคารดอยซ์แบงก์ได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุนสู่ระดับ "buy" ขณะที่หุ้นบีที กรุ๊ป ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ เพิ่มขึ้น 1.3%
หุ้นเทสโก้ เพิ่มขึ้น 1.5% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกในวันศุกร์นี้