ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าร่วงลงเกือบ 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดิ่งลงในคืนนี้ โดยได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อวานนี้ และแนวโน้มการปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ณ เวลา 20.01 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าลบ 81 จุด หรือ 0.38% สู่ระดับ 21,246 จุด หลังจากร่วงลงเกือบ 100 จุดในช่วงแรก
นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการที่เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติด้วยคะแนนเสียง 8-1 เสียง เห็นพ้องให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมวานนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ นับเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ของเฟดในปีนี้ และเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ในวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เริ่มต้นในเดือนธ.ค.2015 และต่อมาในเดือนธ.ค.2016 ก่อนที่จะปรับขึ้นอีกในเดือนมี.ค.ปีนี้ และครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้
นอกจากนี้ เฟดคาดการณ์ว่าจะเริ่มปรับลดงบดุลในปีนี้ จากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ หากเศรษฐกิจมีการปรับตัวตามที่เฟดคาดการณ์ ซึ่งการปรับลดงบดุลของเฟด จะส่งผลให้เฟดลดการถือครองพันธบัตร และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ที่เฟดได้เข้าซื้อในตลาดในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดวันนี้ และฉุดให้ดัชนี Nasdaq ล่วงหน้าร่วงลง