ดัชนีดาวโจนส์ในวันนี้พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ทรุดตัวลงในสัปดาห์ที่แล้ว
ณ เวลา 21.05 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 21,495.85 จุด เพิ่มขึ้น 111.57 จุด หรือ 0.52%
ดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นเหนือระดับ 21,391.97 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นโกลด์แมน แซคส์ทะยานขึ้นมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก
ราคาหุ้นเฟซบุ๊ก แอปเปิล อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบท ต่างก็พุ่งขึ้นราว 1% ในวันนี้
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีถือเป็นกลุ่มที่ปรับตัวดีที่สุดในปีนี้ โดยได้ทะยานขึ้น 17.2%
เนื่องจากในวันนี้ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ นักลงทุนจึงจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้ หลังจากที่เฟดได้ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก และนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟด สาขาชิคาโก จะกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้ โดยคาดว่าจะมีการกล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจ และนโยบายการเงิน
CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสเพียง 13% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.
ทางด้านทำเนียบขาวแถลงในวันนี้ว่า ผู้บริหารของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐราว 20 แห่งจะเข้าพบปะกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในวันนี้ โดยรัฐบาลจะหารือเกี่ยวกับการปรับลดรายจ่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐบาล และการปรับปรุงการให้บริการ
นอกจากนี้ ผู้บริหารดังกล่าวจะหารือกับปธน.ทรัมป์ในประเด็นการทบทวนโครงการการให้วีซ่าเพื่ออำนวยความสะดวกต่อการนำชาวต่างชาติที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเข้าสู่สหรัฐ
ผู้บริหารในกลุ่มเทคโนโลยีที่จะเข้าประชุมกับปธน.ทรัมป์ในวันนี้ รวมถึงประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอปเปิล อิงค์, อเมซอน, ไมโครซอฟท์, ไอบีเอ็ม และอินเทล
รัฐบาลสหรัฐหวังว่าจะสามารถประหยัดงบประมาณได้ถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงเวลา 10 ปีจากการปรับลดค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐบาล, ลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลผ่านทางการปรับปรุงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และลดการทุจริตคอร์รัปชันในหน่วยงานของรัฐบาล