ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (5 ก.ค.) ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่เป็นไปอย่างระมัดระวัง สืบเนื่องจากข้อมูลภาคบริการที่อ่อนแอของอังกฤษ รวมถึงปัจจัยความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ประกาศความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) เป็นครั้งแรก
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 10.37 จุด หรือ +0.14% แตะที่ 7,367.60 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้เป็นไปอย่างผันผวน ก่อนที่จะปิดขยับขึ้นเล็กน้อย โดยค่าเงินสกุลปอนด์ร่วงลง 0.0464% หลุดระดับ 1.29 ดอลลาร์ ภายหลังจากมาร์กิต/ซีไอพีเอสเปิดเผยข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหราชอาณาจักร ซึ่งชะลอตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 53.4 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 53.8 ในเดือนพ.ค. โดยถือเป็นการขยายตัวช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.
นักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่า นักลงทุนได้ระมัดระวังการซื้อขายเพื่อรอดูรายงานการประชุมประจำเดือนมิ.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีการเปิดเผยภายหลังจากตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการ โดยเฟดได้ส่งสัญญาณที่จะเดินหน้าปรับลดงบดุลบัญชีของเฟด ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวผันผวน โดยหุ้นเกลนคอร์ เพิ่มขึ้น 1.3% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ขยับขึ้น 0.6% แต่หุ้นเฟรสนิลโล ผู้ผลิตแร่โลหะมีค่า ปรับตัวลง 0.7% เช่นเดียวกับหุ้นแรนด์โกลด์ รีซอสเซส ที่ลดลง 0.3%
หุ้นเวิลด์เพย์ ผู้ให้บริการชำระเงินระดับชั้นนำ ร่วง 8.8% หลังแวนทิฟ อิงค์ ผู้ให้บริการบัตรเครดิตรายใหญ่จากสหรัฐ ได้เสนอซื้อกิจการเวิลด์เพย์ด้วยวงเงิน 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มากกว่าข้อเสนอของเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค ที่สนใจเทคโอเวอร์บริษัทดังกล่าวเช่นกัน