ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 8.02 จุด นลท.ชะลอเทรดก่อนบริษัทจดทะเบียนเผยผลประกอบการ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 18, 2017 06:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (17 ก.ค.) ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่ซบเซา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่บริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงโกลด์แมน แซคส์ และไมโครซอฟต์ จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มสุขภาพ หลังจากแกนนำวุฒิสภาสหรัฐได้ตัดสินใจเลื่อนการลงมติร่างกฎหมายประกันสุขภาพ อันเนื่องมาจากการที่นายจอห์น แมคเคน วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันต้องใช้เวลาในการพักรักษาตัว หลังจากเข้ารับการผ่าตัด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,629.72 จุด ลดลง 8.02 จุด หรือ -0.04% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,459.14 จุด ลดลง 0.13 จุด หรือ -0.01% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,314.43 จุด เพิ่มขึ้น 1.97 จุด หรือ +0.03%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซาเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่บริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ของสหรัฐจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง โกลด์แมน แซคส์, ไมโครซอฟต์, อีเบย์, แบงก์ ออฟ อเมริกา, เจเนอรัล อิเล็กทริค และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน

ผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ซึ่งจัดทำโดย S&P Capital IQ ระบุว่า ผลประกอบการโดยรวมของบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเพียง 6.2% ในไตรมาส 2 ซึ่งน้อยกว่าผลประกอบการในไตรมาสแรกที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 15%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยกดดันจากดัชนีหุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพซึ่งปรับตัวลง 0.3% หลังจากนายมิทช์ แมคคอนเนล แกนนำวุฒิสภาของสหรัฐได้ประกาศเลื่อนการลงคะแนนเสียงร่างกฎหมายประกันสุขภาพออกไป เนื่องจากนายจอห์น แมคเคน วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันต้องพักรักษาตัว หลังจากที่เข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาอาการเส้นเลือดอุดตัน

เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติอนุมัติร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ที่ผลักดันโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ด้วยคะแนนเสียงฉิวเฉียด 217-213 เสียง โดยร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ หรือที่เรียกว่า "อเมริกันเฮลธ์แคร์" นั้นจะถูกนำมาบังคับใช้แทนกฎหมายประกันสุขภาพฉบับโอบามาแคร์ของรัฐบาลชุดก่อน หากผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้จะเผชิญอุปสรรคมากกว่าในสภาผู้แทนราษฎร โดยแกนนำของพรรครีพับลิกันต้องใช้เวลาเกือบ 2 เดือนเพื่อรวบรวมคะแนนเสียงเพื่อให้เพียงพอต่อการผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว

หุ้นแบล็คร็อค ซึ่งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์รายใหญ่ระดับโลก ร่วงลง 3.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ทั้งนี้ แบล็คร็อค ระบุว่า บริษัทมีกำไร 5.24 ดอลลาร์/หุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.40 ดอลลาร์/หุ้น ขณะเดียวกันบริษัทมีรายได้ 2.965 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.019 พันล้านดอลลาร์

หุ้น Blue Apron ซึ่งเป็นบริษัทอุปกรณ์สำหรับทำอาหาร ร่วงลง 10.5% หลังจากมีรายงานว่าบริษัท อเมซอน เตรียมเปิดตัวธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับทำอาหาร โดยข่าวดังกล่าวส่งผลให้เกิดความกังวลว่า Blue Apron อาจเผชิญกับคู่แข่งรายใหญ่

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) มีการขยายตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนก.ค. แต่ในอัตราที่ชะลอตัวลงอย่างมาก ขณะที่คำสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงานร่วงลง

ทั้งนี้ ดัชนีภาคการผลิตดิ่งลงสู่ระดับ 9.8 ในเดือนก.ค. จากระดับ 19.8 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีภาคการผลิตจะอยู่ที่ระดับ 15 ในเดือนก.ค.

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาส่งออก-นำเข้าเดือนมิ.ย., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนมิ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ