ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดขยับขึ้น หลังหุ้นเหมืองพุ่งขานรับ GDP จีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 18, 2017 07:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากมีรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 2/2560 อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา โดยดัชนีตลาดหุ้นเยอรมนีและฝรั่งเศสปิดอ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่บริษัทจดทะเบียนจะเปิดเผยผลประกอบการ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้น 0.01% ปิดที่ 386.86 จุด

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,404.13 จุด เพิ่มขึ้น 25.74 จุด หรือ +0.35% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,230.17 จุด ลดลง 5.14 จุด หรือ -0.10% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,587.16 จุด ลดลง 44.56 จุด หรือ -0.35%

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้น หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานเมื่อวานนี้ว่า GDP ไตรมาส 2/2560 ขยายตัว 6.9% ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 6.8% และสูงกว่าเป้าหมายของรัฐบาลที่ 6.5%

ทั้งนี้ หุ้นอันโตฟากัสต้า ซึ่งเป็นผู้ผลิตทองแดง พุ่งขึ้น 2.3% หุ้นเซนตามิน ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่ ทะยานขึ้น 2.3% หุ้นโบลิเดน ผู้ประกอบการเหมืองสัญชาติสวีเดน พุ่งขึ้น 1.3% และหุ้นเทรานิส ผู้ผลิตท่อเหล็ก ปรับตัวขึ้น 0.9%

หุ้นไอทีวี พุ่งขึ้น 3.2% หลังจากมีรายงานว่า ไอทีวีจะดึงนางแคโรลีน แมคคอลล์ ผู้บริหารของสายการบินอีซี่เจ็ท ให้นั่งตำแหน่งซีอีโอของไอทีวี โดยจะเริ่มทำหน้าที่ในเดือนม.ค.ปีหน้า ขณะที่ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นอีซี่เจ็ทปรับตัวขึ้น 0.3%

อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา โดยดัชนีตลาดหุ้นเยอรมนีและฝรั่งเศสปิดตลาดอ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่บริษัทจดทะเบียนจะเปิดเผยผลประกอบการ

นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศยุโรปในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงอัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย.ของอังกฤษ, ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนก.ค.ของเยอรมนีจาก ZEW, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย.ของเยอรมนี และยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.ของอังกฤษ

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ECB จะยังไม่มีมติปรับลดวงเงินตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้ โดยคาดว่าทางธนาคารกลางจะเริ่มปรับลดวงเงินดังกล่าวในการประชุมเดือนม.ค.ปีหน้า และมีแนวโน้มว่า จะทยอยปรับลดในช่วงระยะเวลา 9 เดือน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ