ดัชนีตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำสถิติสูงสุดในรอบหนึ่งเดือนเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) ด้วยแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นยูนิลีเวอร์ หลังผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภครายใหญ่ดังกล่าวเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 56.96 จุด หรือ +0.77% แตะที่ 7,487.87 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเมื่อคืนนี้ ดัชนี FTSE 100 ได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งของหุ้นยูนิลีเวอร์ หลังจากบริษัทเผยยอดขายในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 3% ซึ่งแม้ว่าจะต่ำกว่าระดับ 3.2% ที่มีการคาดการณ์ไว้ แต่ยูนิลีเวอร์ยืนยันว่าบริษัทจะสามารถทำยอดขายตลอดทั้งปีได้ตามเป้าหมาย 3-5% ที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน โดยยูนิลีเวอร์เชื่อว่า ยอดขายจะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ จากอานิสงส์การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
สำหรับรายได้ในช่วงครึ่งปีแรก ขยายตัวในอัตรา 3% เช่นกัน เทียบกับระดับคาดการณ์ที่ 3.1% ส่วนผลกำไรสุทธิงวดหกเดือนทะยานขึ้นถึง 22.4%
นอกจากรายงานผลประกอบการของยูนิลีเวอร์แล้ว ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับปัจจัยบวกจากยอดค้าปลีกของสหราชอาณาจักร โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษรายงานว่า ยอดค้าปลีกของสหราชอาณาจักรมีการขยายตัว 0.6% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน และขยายตัว 2.9% เมื่อเทียบรายปี
หุ้นกลุ่มบริษัทข้ามชาติปรับตัวขึ้นจากอานิสงส์การที่สกุลเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์เมื่อคืนนี้ โดยค่าเงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดระหว่างวันที่ 1.2964 ดอลลาร์ เมื่อเทียบกับระดับสูงสุดที่ 1.3033 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่า ปัจจัยที่กดดันให้ค่าเงินปอนด์ร่วงลงเมื่อคืนนี้ มาจากความวิตกกังวลของนักลงทุนที่ว่า การเจรจาระหว่างอังกฤษกับสหภาพยุโรป (EU) เกี่ยวกับแผนการแยกตัวของอังกฤษออกจาก EU หรือ Brexit นั้น ยังไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจน