ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบในการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ ภายหลังจากที่ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงนโยบายการเงินไว้ ในขณะที่นักลงทุนต่างจับตาสถานการณ์การเมืองสหรัฐที่เกี่ยวพันกับการสอบสวนกรณีที่รัสเซียถูกกล่าวหาว่าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ตลอดจนการประชุมเรื่องกฎหมายประกันสุขภาพของวุฒิสภาสหรัฐที่มีรายงานว่า จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้าเช่นกัน
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 32,035.88 จุด เพิ่มขึ้น 131.48 จุด, +0.41% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 26,706.31 จุด ลดลง 33.90 จุด, -0.13% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,753.57 จุด ลดลง 2.06 จุด, -0.12%
ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ บุตรชายของประธานาธิบดีสหรัฐ, นายจาเร็ด คุชเนอร์ บุตรเขย และนายพอล มานาฟอร์ต อดีตผู้จัดการแคมเปญหาเสียงของทรัมป์ มีกำหนดเตรียมเข้าให้การต่อวุฒิสภาสหรัฐในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่า ECB พร้อมที่จะเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หากมีความจำเป็น
อย่างไรก็ดี นายดรากีระบุว่า ECB จะทำการหารือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงวงเงิน QE ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง แต่เขาไม่ได้ระบุวันที่แน่นอนแต่อย่างใด
สำหรับความเคลื่อนไหวทางการเงินในวันนี้ ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นการคงนโยบายการเงินติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 โดยระบุว่าเศรษฐกิจภายในประเทศมีแนวโน้มขยายตัวช้าลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้
ทั้งนี้ ธนาคารกลางประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยข้อตกลงซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repo) ระยะเวลา 7 วัน ที่ระดับ 4.75% สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์