ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ หลังหุ้นบริษัทรถยนต์เยอรมนีร่วงหนัก

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นบริษัทผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของเยอรมนี หลังจากมีข่าวว่า หน่วยงานต่อต้านการผูกขาดตลาดของคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กำลังดำเนินการสอบสวนกรณีการสมรู้ร่วมคิดในการผูกขาดตลาดของ 3 บริษัทผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของเยอรมนี ซึ่งได้แก่ โฟล์คสวาเกน, เดมเลอร์ และ BMW

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.2% ปิดที่ 379.23 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,127.70 จุด เพิ่มขึ้น 10.04 จุด หรือ +0.20% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,208.95 จุด ลดลง 31.11 จุด หรือ -0.25% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,377.73 จุด ลดลง 75.18 จุด หรือ -1.01%

หุ้นบริษัทผลิตรถยนต์ของเยอรมนีร่วงลง หลังจาก Der Spiegel ซึ่งเป็นนิตยสารข่าวของเยอรมนี รายงานว่า โฟล์คสวาเกน, เดมเลอร์, ออดี้, ปอร์เช่ และ BMW อาจเข้าข่ายการสมรู้ร่วมคิดในการผูกขาดตลาดในด้านการกำหนดราคาระบบจัดการการปล่อยไอเสีย รวมทั้งผูกขาดด้านต้นทุน, เทคโนโลยี และซัพพลายเออร์

ทางด้านเจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรป (EU) ได้ออกมายืนยันข่าวดังกล่าว โดยระบุว่าทางเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการสอบสวนการผูกขาดตลาดของบริษัทโฟล์คสวาเกน, เดมเลอร์ และ BMW

ทั้งนี้ หุ้น BMW ดิ่งลง 2.8% หุ้นโฟล์คสวาเกน ร่วงลง 1.4% และหุ้นเดมเลอร์ ร่วงลง 2.7%

หุ้นไรอันแอร์ ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำของยุโรป ร่วงลง 1.1% หลังจากทางบริษัทระบุว่า ราคาตั๋วเครื่องบินมีแนวโน้มลดลงโดยเฉลี่ย 5% ในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. และอาจลดลงถึง 8% โดยเฉลี่ย ในช่วงเดือนต.ค.-มี.ค.

อย่างไรก็ตาม ไรอันแอร์เปิดเผยว่า ในไตรมาสช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย. สายการบินสามารถทำกำไรสุทธิได้มากถึง 397 ล้านยูโร (463 ล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ระดับ 256 ล้านยูโร ขณะที่ยอดขายปรับตัวขึ้น 13% สู่ระดับ 1.91 พันล้านยูโร

หุ้นกลุ่มพลังงานปิดตลาดอ่อนแรงลง แม้ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ก็ตาม โดยหุ้นทุลโลว์ ออยล์ ร่วงลง 1.7% และหุ้นโททาล ปรับตัวลง 0.1%

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับปัจจัยกดดันหลังจากไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการของยูโรโซน ปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน แตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนที่ 55.8 ในเดือนก.ค. จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 56.3

หากแยกตามภาคส่วนพบว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตลดลงแตะระดับ 56.9 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนเช่นกัน จากระดับ 58.7 ในเดือนมิ.ย. ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการอยู่ที่ระดับ 55.4 ในเดือนก.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมิ.ย.

ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่า กิจกรรมในภาคธุรกิจของยูโรโซนชะลอตัวลงในช่วงเดือนก.ค.นี้ ส่งสัญญาณว่า ช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ เศรษฐกิจในภูมิภาคอาจจะไม่ได้ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งเหมือนกับช่วงครึ่งปีแรก