ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นกว่า 2% ก็เป็นอีกปัจจัยที่หนุนตลาดในวันนี้
ณ เวลา 20.44 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 21,630.30 จุด เพิ่มขึ้น 115.04 จุด หรือ 0.54%
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดีดตัวขึ้นเป็นวันที่ 2 ในวันนี้ ขานรับซาอุดิอาระเบียที่ประกาศลดการส่งออกน้ำมัน รวมทั้งการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) อาจจัดประชุมฉุกเฉิน พร้อมกับขยายเวลาลดกำลังการผลิตออกไปอีก เพื่อหนุนราคาในตลาด
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้
ณ เวลา 20.33 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 1.05 ดอลลาร์ หรือ 2.27% สู่ระดับ 47.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นแคทเทอร์ พิลลาร์ ทะยานขึ้นมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก
บริษัทแคทเทอร์ พิลลาร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องมือก่อสร้างขนาดใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 2 โดยมีกำไร และรายได้ดีกว่าตัวเลขคาดการณ์
แคทเทอร์ พิลลาร์ระบุว่า บริษัทมีกำไร 1.49 ดอลลาร์/หุ้น เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.26 ดอลลาร์/หุ้น
นอกจากนี้ บริษัทระบุรายได้ที่ระดับ 1.133 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.093 หมื่นล้านดอลลาร์
บริษัทแมคโดนัลด์ คอร์ป รายงานตัวเลขกำไร และรายได้ประจำไตรมาส 2 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ทั้งนี้ แมคโดนัลด์เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไรที่ระดับ 1.70 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 1.62 ดอลลาร์/หุ้น
นอกจากนี้ ทางบริษัทมีรายได้ที่ระดับ 6.05 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 5.96 พันล้านดอลลาร์
เจเนอรัล มอเตอร์ (GM) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยกำไรพุ่งขึ้นเกินคาดในไตรมาส 2
ทั้งนี้ GM เปิดเผยว่า มีกำไร 1.89 ดอลลาร์/หุ้น เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.69 ดอลลาร์/หุ้น
อย่างไรก็ดี บริษัทระบุรายได้ที่ระดับ 3.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.03 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ บริษัทราว 180 แห่งในดัชนี S&P 500 จะประกาศผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงเฟซบุ้ก, โบอิ้ง และอเมซอน
บริษัทราว 73% ในดัชนี S&P 500 ซึ่งได้ประกาศผลประกอบการจนถึงสัปดาห์ที่แล้ว มีผลประกอบการสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ ขณะที่ 77% มียอดขายสูงกว่าคาด
นักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทจดทะเบียนจะมีการขยายตัวของผลประกอบการเฉลี่ย 6.2%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในวันนี้ และพรุ่งนี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า คณะกรรมการ FOMC จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาปัจจัยการเมืองในสหรัฐ หลังจากที่นายจาเร็ด คุชเนอร์ บุตรเขยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวยืนยันวานนี้ว่า เขาไม่ได้ทำการสมรู้ร่วมคิดกับรัสเซียในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีที่แล้ว
นอกจากนี้ นายคุชเนอร์ยังกล่าวว่า การดำเนินการของเขาในระหว่างการรณรงค์หาเสียงให้กับปธน.ทรัมป์ เป็นการกระทำที่เหมาะสม