ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) หลังจาก Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากข่าวที่ว่า กรีซสามารถระดมทุนได้สูงถึง 3 พันล้านยูโร จากการจำหน่ายพันธบัตรเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปีเมื่อวานนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.4% ปิดที่ 380.77 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,264.31 จุด เพิ่มขึ้น 55.36 จุด หรือ +0.45% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,161.08 จุด เพิ่มขึ้น 33.38 จุด หรือ +0.65% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,434.82 จุด เพิ่มขึ้น 57.09 จุด หรือ +0.77%
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นหลังจากรายงานของ Ifo ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 116.0 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 115.2 ในเดือนมิ.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 114.9
ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจของเยอรมนีเติบโตแข็งแกร่งมาตั้งแต่ต้นปี โดยอัตราว่างงานได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง จากแรงหนุนของอุปสงค์ภายในประเทศ และในขณะเดียวกันการส่งออกที่เพิ่มมากขึ้น ก็ช่วยสนับสนุนภาคการผลิตให้เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้ปัจจัยหนุนจากข่าวที่ว่า รัฐบาลกรีซสามารถระดมเงินได้ 3 พันล้านยูโร (3.5 พันล้านดอลลาร์) จากการจำหน่ายพันธบัตรเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปีเมื่อวานนี้ โดยการเสนอขายพันธบัตรรัฐบาลกรีซในวันนี้ ได้รับการจองซื้อจากนักลงทุนมากกว่าที่เสนอขายถึง 2 เท่า
หุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้น นำโดยหุ้นธนาคาร Banco de Sabadell ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของสเปน พุ่งขึ้น 3.7% ซึ่งเป็นปัจจัยดัชนีหุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้น 1.6%
หุ้นจิมมี ชู พุ่งขึ้น 17% หลังจากไมเคิล คอร์ส ผู้ผลิตกระเป๋าและสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง ได้ตกลงเทคโอเวอร์กิจการของจิมมี ชู ผู้ผลิตรองเท้าและเครื่องประดับสุดหรู ด้วยวงเงินสูงถึง 896 ล้านปอนด์ หรือราว 1.17 พันล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพุธที่ 26 ก.ค.ตามเวลาสหรัฐ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า คณะกรรมการ FOMC จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา