ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ก.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึง เดมเลอร์ เอจี ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งคณะกรรมการเฟดจะเปิดเผยผลการประชุมภายหลังจากที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการแล้ว
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.5% ปิดที่ 382.74 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,305.11 จุด เพิ่มขึ้น 40.80 จุด หรือ +0.33% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,452.32 จุด เพิ่มขึ้น 17.50 จุด หรือ +0.24% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,190.17 จุด เพิ่มขึ้น 29.09 จุด หรือ +0.56%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้น ขานรับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ของยุโรป โดยเดมเลอร์ เอจี ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 2.44 พันล้านยูโร จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ระดับ 2.43 พันล้านยูโร
หุ้นเปอร์โยต์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 3.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 4.1% ในช่วงครึ่งปีแรก จากการที่บริษัทดำเนินแผนปรับลดต้นทุน
หุ้นโฟล์คสวาเกน ปรับตัวขึ้น 1.6% ขณะที่หุ้นแอร์บัส พุ่งขึ้น 2.7%
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากสำนักงานสถิติฝรั่งเศส (Insee) รายงานเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงจากระดับสูงสุดในรอบสิบปีที่ 108 ในเดือนมิ.ย. มาอยู่ที่ระดับ 104 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ. และผิดไปจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะทรงตัวที่ระดับเดิม
รายงานของ Insee ระบุว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงอย่างมาก เนื่องจากภาคครัวเรือนสูญเสียความเชื่อมั่นในสถานะทางการเงินและความสามารถในการออม ท่ามกลางสถานการณ์คะแนนนิยมในตัวประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครอง ของฝรั่งเศส ที่ร่วงลงถึง 10% ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา