ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) ขานรับตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ที่ขยายตัวขึ้น แต่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นอเมซอน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 33.76 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 21,830.31 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 3.32 จุด หรือ 0.13% ปิดที่ 2,472.10 จุด ดัชนี Nasdaq ขยับลง 7.51 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ 6,374.68 จุด
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ของการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 ปี 2560 อยู่ที่ระดับ 2.6% ซึ่งสูงกว่าที่ขยายตัว 1.2% ในไตรมาสแรก ขณะที่สอดคล้องกับมุมมองของนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าเศรษฐกิจไตรมาส 2 ของสหรัฐจะดีดตัวขึ้นกว่า 2.5%
รายงานระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐที่ขยายตัวเร็วขึ้นในช่วงไตรมาส 2 นั้น ได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายผู้บริโภค และการลงทุนของภาคธุรกิจในด้านเครื่องมืออุปกรณ์ โดยการใช้จ่ายผู้บริโภค ซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักและมีสัดส่วนขนาดใหญ่ในเศรษฐกิจสหรัฐ ขยายตัว 2.8% หลังจากที่ขยายตัว 1.9% ในไตรมาสก่อนหน้า ส่วนการลงทุนของภาคธุรกิจในเครื่องมืออุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์ เพิ่มขึ้น 8.2%
อเมซอนดอทคอม อิงค์ บริษัทค้าปลีกออนไลน์ยักษ์ใหญ่ ได้เปิดเผยผลประกอบการที่ดิ่งลงถึง 77% ในไตรมาส 2 พร้อมกับคาดการณ์ว่าอาจขาดทุนจากการดำเนินงานในไตรมาสปัจจุบัน เนื่องจากบริษัทกำลังทุ่มเงินลงทุนอย่างหนักในด้านคอนเทนต์วิดีโอ รวมถึงลงทุนในตลาดที่กำลังเติบโต อย่างเช่นอินเดีย ซึ่งผลประกอบการที่น่าผิดหวังดังกล่าวส่งผลให้หุ้นอเมซอนร่วงลงเกือบ 3%