ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (31 ก.ค.) โดยดาวโจนส์ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 4 หลังจากหุ้นบริษัทผลิตเครื่องบินรายใหญ่อย่าง โบอิ้ง ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากรายงานที่ว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายของสหรัฐฟื้นตัวในเดือนมิ.ย. อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,891.12 จุด เพิ่มขึ้น 60.81 จุด หรือ +0.28% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,348.12 จุด ลดลง 26.55 จุด หรือ -0.42% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,470.30 จุด ลดลง 1.80 จุด หรือ -0.07%
หุ้นโบอิ้งปิดบวก 0.49% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 242.46 ดอลลาร์ หลังจากโบอิ้งคาดการณ์ว่า สายการบินในอินเดียจะสั่งซื้อเครื่องบินใหม่จากโบอิ้งราว 2,100 ลำ ในวงเงิน 2.90 แสนล้านดอลลาร์ในช่วง 20 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นการประเมินคำสั่งซื้อเครื่องบินที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์สำหรับสายการบินในอินเดีย
ขณะเดียวกันหุ้นโบอิ้งยังได้ปัจจัยหนุนหลังจากเจพีมอร์แกน ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นโบอิ้งขึ้นสู่ระดับ 250 ดอลลาร์/หุ้น
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานของสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) ซึ่งระบุว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เพิ่มขึ้น 1.5% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังปรับตัวลง 3 เดือนติดต่อกัน
หากเทียบรายปี ดัชนีเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค.
ทั้งนี้ ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย เป็นมาตรวัดจำนวนสัญญาซื้อบ้านมือสองที่มีการเซ็นสัญญาแล้วแต่ยังไม่ได้ปิดการขาย และโดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนสำหรับการเซ็นสัญญาไปจนกระทั่งปิดการขาย
อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนเดินหน้าเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งส่งผลให้หุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 1.9% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ดิ่งลง 1.2% หุ้นอเมซอน ร่วงลง 3.2% หุ้นเน็ทฟลิกซ์ ปรับตัวลง 1.3%
ส่วนหุ้นแอปเปิลปิดตลาดลดลง 0.51% ขณะที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการของแอปเปิลในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีถูกกระหน่ำขายติดต่อกันหลายวัน เนื่องจากนักลงทุนเริ่มหันมาทบทวนมูลค่าของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและได้ปรับโพสิชั่นการลงทุนในหุ้นกลุ่มดังกล่าว
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ การใช้จ่าย-รายได้ส่วนบุคคลเดือนมิ.ย., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมิ.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ค., ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนมิ.ย. และยอดขายรถเดือนก.ค.