ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (4 ส.ค.) ขานรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐแข็งแกร่ง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,092.81 จุด เพิ่มขึ้น 66.71 จุด หรือ +0.30% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,476.83 จุด เพิ่มขึ้น 4.67 จุด หรือ +0.19% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,351.56 จุด เพิ่มขึ้น 11.22 จุด หรือ +0.18%
ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นวันที่ 8 หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.3% จาก 4.4% ในเดือนมิ.ย.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 183,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. และอัตราว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.3%
นอกจากนี้ ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน หรือค่าแรงต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค. ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยปรับตัวขึ้น 9 เซนต์ สู่ระดับ 26.36 ดอลลาร์ ขณะที่เพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ
กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 145,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 152,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขจ้างงานในเดือนมิ.ย. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 231,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 222,000 ตำแหน่ง
กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่าในเดือนก.ค. ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 205,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 4,000 ตำแหน่ง
ส่วนตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกำลังแรงงานต่อจำนวนประชากรทั้งหมด เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 62.9% จาก 62.8%
หุ้นโกโปร ผู้ผลิตกล้องขนาดเล็ก พุ่งขึ้น 19.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด
หุ้นซิกนาปรับตัวลง 2% ถึงแม้ผลประกอบการจะออกมาสอดคล้องคาดการณ์
หุ้นเยล์ป ทะยานขึ้น 28% หลังจากบริษัทตกลงที่จะขายธุรกิจส่งอาหารให้แก่ GrubHub Inc.
สำหรับในสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 1.2% ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น 0.2% และดัชนี NASDAQ ลดลง 0.4%