ดัชนีดาวโจนส์เปิดแดนลบ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลประกอบการของบริษัทดิสนีย์ อิงค์หลังจากตลาดปิดทำการในวันนี้
ณ เวลา 20.52 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 22,102.51 จุด ลดลง 15.91 จุด หรือ 0.07%
หุ้นกลุ่มธุรกิจรักษาสุขภาพดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นไมโครซอฟต์ร่วงลงมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก
เมื่อพิจารณาถึงสัปดาห์ที่แล้ว บริษัทจดทะเบียนมีผลประกอบการเพิ่มขึ้น 10.1% ในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.2%
ดัชนีดาวโจนส์สามารถปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกัน 9 วัน ขณะที่พุ่งขึ้นมากกว่า 10% นับตั้งแต่ต้นปี
ราคาหุ้นไมเคิล คอร์ส และราล์ฟ ลอเรนทะยานขึ้น 18% และ 8% ตามลำดับในวันนี้ ขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่ดีกว่าคาด
ทั้งนี้ ไมเคิล คอร์สเปิดเผยว่า กำไรสุทธิร่วงลง 15% สู่ระดับ 125.5 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปีงบการเงินของบริษัท ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 1 ก.ค. หรืออยู่ที่ระดับ 80 เซนต์/หุ้น จากระดับ 147.1 ล้านดอลลาร์ หรือ 83 เซนต์/หุ้นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทจะมีกำไร 62 เซนต์/หุ้นในไตรมาสแรก
นอกจากนี้ รายได้ของบริษัทลดลง 3.6% สู่ระดับ 952.4 ล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทจะมีรายได้ 918.6 ล้านดอลลาร์
เมื่อเดือนที่แล้ว ไมเคิล คอร์ส เปิดเผยว่า ทางบริษัทได้เทคโอเวอร์กิจการของจิมมี ชู ผู้ผลิตรองเท้าและเครื่องประดับสุดหรู ด้วยวงเงิน 896 ล้านปอนด์ หรือ 1.17 พันล้านดอลลาร์
บริษัทคาดว่าการซื้อกิจการดังกล่าวจะทำให้รายได้เพิ่มขึ้น 275 ล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งหลังของปีงบการเงินปัจจุบัน ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมี.ค.2018
นอกจากนี้ ไมเคิล คอร์สยังคาดว่ารายได้ของปีงบการเงิน 2018 จะอยู่ที่ระดับ 4.28 พันล้านดอลลาร์ โดยสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 4.25 พันล้านดอลลาร์
ทางด้านราล์ฟ ลอเรน คอร์ป ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์แฟชั่นและเฟอร์นิเจอร์ระดับโลก เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาสแรกของปีงบการเงินของบริษัทที่สิ้นสุดวันที่ 1 ก.ค.
ทั้งนี้ บริษัทเปิดเผยว่ารายได้ลดลงสู่ระดับ 1.35 พันล้านดอลลาร์ จากระดับ 1.55 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทจะมีรายได้ 1.34 พันล้านดอลลาร์
ส่วนกำไรอยู่ที่ระดับ 59.5 ล้านดอลลาร์ หรือ 72 เซนต์/หุ้น จากที่ขาดทุน 22.3 ล้านดอลลาร์ หรือ 27 เซนต์/หุ้นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว