ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ส.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินยูโรช่วยให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทส่งออกยุโรป อย่างไรก็ตาม ข้อมูลการค้าที่ย่ำแย่ของเยอรมนีได้สร้างแรงกดดันต่อตลาดในระหว่างวัน
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.2% ปิดที่ 382.65 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,292.05 จุด เพิ่มขึ้น 34.88 จุด หรือ +0.28% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,218.89 จุด เพิ่มขึ้น 11.00 จุด หรือ +0.21% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,542.73 จุด เพิ่มขึ้น 10.79 จุด หรือ +0.14%
ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนจากสกุลเงินยูโรที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มผลกำไรของบริษัทส่งออกยุโรป โดยยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.1758 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตำแหน่งงานนอกภาคเกษตรที่เปิดรับสมัครโดยสถานประกอบการในสหรัฐ พุ่งขึ้น 8% สู่ระดับ 6.2 ล้านตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2543
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลการค้าที่ซบเซาของเยอรมนีได้สร้างแรงกดดันต่อตลาดในระหว่างวัน โดยสำนักงานสถิติของประเทศเยอรมนี (FSO) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนมิ.ย. ร่วงลง 2.8% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักสุดในรอบ 2 ปีหรือนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2558 ขณะที่ยอดนำเข้าเดือนมิ.ย. ร่วงลง 4.5% ซึ่งลดลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2552
หุ้นแพนโดรา ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องประดับ ร่วงลง 13.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิลดลง 10%
หุ้นอินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเทล ดิ่งลง 4% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดากรณ์
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวผันผวน โดยหุ้นริโอทินโต ลดลง 0.3% หุ้นอันโตฟากัสตา ขยับขึ้น 0.6% และหุ้นอาร์เซลอร์มิตตัล ขยับขึ้น 0.4%